มุมมองทิสโก้!!

Investment

Capital Market

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

มุมมองทิสโก้!!

Date Time: 6 ก.พ. 2567 05:04 น.

Summary

Latest

“ภาษีทรัมป์” 36% ถล่มหุ้นไทย ลุ้น 1 ส.ค. ข้อเสนอถูกใจสหรัฐฯ เปิด 5 ความเป็นไปได้ แบบไหนเวิร์คสุด ?

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 5 ก.พ.67 ปิดที่ 1,383.93 จุด ลดลง 0.15 จุดมีมูลค่าซื้อขาย 41,136.10 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 160.34 ล้านบาท

บล.ทิสโก้ชี้ตลาดหุ้นทั่วโลกช่วงต้นปี 67 ค่อนข้างดี โดยเดือนมกราคม ดัชนี MSCI World ปรับขึ้นเกือบ 2% ต่อเนื่องจากปี 66 ที่ปรับตัวขึ้น 20% นำโดยตลาดหุ้นประเทศที่พัฒนาแล้วได้รับปัจจัยเชิงบวกจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ดีกว่าคาด

สำหรับตลาดหุ้นไทยเริ่มต้นปีนี้ไม่ดีนัก โดยให้ผลตอบแทนติดลบราว 3% จาก GDP ปี 66 โตต่ำกว่าคาด และ GDP ปี 67 อาจเติบโตต่ำกว่าคาด โดยค่ากลางของตลาดคาดการณ์โต 3.5%

ตลาดหุ้นไทยยังได้รับผลลบจากกำไรไตรมาส 4/66 กลุ่มแบงก์ที่ออกมา อ่อนแอต่ำกว่าที่ทิสโก้และตลาดคาดราว 14-15% ขณะที่หุ้นนอกกลุ่มแบงก์ (Non-BANK) ที่รายงานผลประกอบการออกมาเร็วอย่าง SCC และ SCGP ก็ออกมาต่ำกว่าคาด ทำให้ประมาณการกำไรของตลาดมีแนวโน้มถูกปรับลงต่อ

อย่างไรก็ตาม ณ ระดับราคาหุ้นไทยปัจจุบันที่คิดเป็นอัตราราคาต่อกำไร ล่วงหน้า (12m Fwd. PER) อยู่ที่ 14.7 เท่า และอัตราส่วนราคาต่อมูลค่าทางบัญชี (PBV) ที่ 1.3 เท่า หรือเท่ากับ -1SD จากค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 17 เท่า และ 1.7 เท่าตามลำดับ

ทำให้ทิสโก้มองว่า ดัชนีหุ้นไทยในปัจจุบันซึมซับปัจจัยลบไปพอสมควรแล้ว และยังลุ้นรีบาวด์ได้ในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้า หากไม่ได้มีวิกฤติเศรษฐกิจ เช่น วิกฤติต้มยำกุ้งปี 40 และวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ปี 51 ตลาดหุ้นไทยไม่เคยให้ผลตอบแทนติดลบ 5 ไตรมาสติดต่อกัน

ทั้งนี้ทิสโก้มองโอกาสหรือน้ำหนักที่ดัชนีหุ้นไทยในไตรมาส 1/67 จะติดลบมีต่ำมาก สอดรับกับข้อมูลสถิติในอดีตที่ตลาดหุ้นไทยมักปรับตัวขึ้นในไตรมาส 1 ของทุกปี โดยนับตั้งแต่ปี 53 เป็นต้นมา โดยมีโอกาสสูงเกือบ 90% โดยดัชนีหุ้นไทยให้ผลตอบแทนเป็นบวกเฉลี่ย +2.9% โดยเฉพาะในเดือนกุมภาพันธ์มีโอกาสปรับขึ้นสูงถึงเกือบ 80%

แต่ท่ามกลางภาวะตลาดหุ้นไทยที่ยังผันผวน ในเชิงกลยุทธ์ ทิสโก้มองหุ้นกลุ่มปันผลเป็นทางเลือกที่น่าลงทุนในช่วง 1-3 เดือนข้างหน้า โดยจากการศึกษาความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นที่มีการจ่ายเงินปันผลสูง นับตั้งแต่ปี58 เป็นต้นมา พบว่าหุ้นปันผลมักจะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าตลาด (Outperform) เสมอในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เมษายนของทุกปี โดยมีความเป็นไปได้สูงเฉลี่ยมากกว่า 70% และจะให้ผลตอบแทนโดยรวมเฉลี่ยดีกว่าตลาด +2.4%

ด้านเทคนิคให้กรอบดัชนีหุ้นไทยที่ 1,350-1,400 จุด ในการเทรดดิ้งระยะสั้น เน้นการตั้งรับ โดยหุ้นปันผลที่คาดจะให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลดีช่วง 1-2 เดือนนี้ คือ AP, DMT, ICHI และ SCB

ขณะที่หุ้นได้ประโยชน์จากการท่องเที่ยวไทยฟื้นตัวน่าจะมีแนวโน้มแข็งแกร่งกว่าตลาดต่อไป แนะนำ ERW, SISB และ SPA

อินเด็กซ์ 51

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ