ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 21 ธ.ค.66 ปิดที่ 1,404.84 จุด เพิ่มขึ้น 4.47 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 38,760.88 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 479.25 ล้านบาท
หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด PTT ปิด 35 บาท ลบ 0.25 บาท, PTTGC ปิด 37.75 บาท ลบ 2.75 บาท, DELTA ปิด 91 บาท บวก 1.25 บาท, AOT ปิด 60.50 บาท บวก 1 บาท, BDMS ปิด 26 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง
หุ้นไทยแกว่งตัวขึ้นดีกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาค โดยได้แรงซื้อหนุนจากหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์และโรงไฟฟ้าหลัง US Bond yield ปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่กลุ่มโรงไฟฟ้า มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวหนุน
ฝ่ายวิจัย บล. เอเซียพลัส ระบุในบทวิเคราะห์ ภาพรวมตลาดหุ้นไทยช่วงนี้ เป็นการขึ้นที่กระจายตัวได้ดี ดูแข็งแรงขึ้นผิดกลับช่วงก่อนหน้าที่เป็นการสลับกลุ่มการซื้อขายหรือ SECTOR ROTATION หุ้นอิง ESG เด่นขึ้นเรื่อยๆ
ดังนั้น แนะนำทยอยสะสมหุ้นให้ความสำคัญกับ ESG ที่แนวโน้มกำไรเติบโตเด่น หรือปันผลสูง โดยหุ้น ESG RATING สูง และปันผลสูง ได้แก่ SIRI, BRI, TISCO, ORI, SPALI, SC, LH, INTUCH, AP, TTCL, MAJOR, BBL, ADVANC, KBANK, HMPRO
ส่วนหุ้น ESG RATING สูง กำไรเติบโตเด่น ได้แก่ CK, GULF, CRC, BEM, CPALL, MINT
บล.ทิสโก้ ให้ความเห็นระบุว่า หุ้น ESG หนุน SET ยืนเหนือ 1,400 จุดได้อีกครั้ง โดยได้รับแรงหนุนจากเม็ดเงินลงทุนจากกองทุน ESG กว่า 1.3 พันล้านบาท นักวิเคราะห์มองว่า เงินลงทุนจากกองทุน ESG จะยังคงไหลเข้าตลาดต่อเนื่องในช่วงโค้งสุดท้ายของปี เนื่องจากยังมีอีกหลายกองทุนที่จะปิดการเสนอขาย IPO และเข้าสู่ระบบซื้อขายของ streaming ในสัปดาห์หน้าก่อนสิ้นปี
โดยคาดว่าเม็ดเงินรวมที่จะไหลเข้าตลาดจากกองทุน ESG จะอยู่ที่ 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนสำคัญต่อตลาดหุ้นไทยในช่วงต้นปี 67
ส่วนราคาหุ้น ADVANC ที่เพิ่มขึ้นแรง หลังศาลเพิกถอนคำชี้ขาดอนุญาโต ปม NT ฟ้องทรู 5.4 พันล้านบาท โดยนักวิเคราะห์มองว่า ตลาดน่าจะซึมซับข่าวร้ายดังกล่าวไปแล้ว และมองเป็นโอกาสซื้อสะสม เนื่องจาก ADVANC ยังมีปัจจัยบวกหนุนจากการขยายโครงข่าย 5G และแนวโน้มผลประกอบการที่เติบโตต่อเนื่อง!!
อินเด็กซ์ 51
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่