หวัง Santa Rally!!

Investment

Capital Market

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

หวัง Santa Rally!!

Date Time: 16 ธ.ค. 2566 05:01 น.

Summary

Latest

“ภาษีทรัมป์” 36% ถล่มหุ้นไทย ลุ้น 1 ส.ค. ข้อเสนอถูกใจสหรัฐฯ เปิด 5 ความเป็นไปได้ แบบไหนเวิร์คสุด ?

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 15 ธ.ค.66 ปิดที่ 1,391.03 จุด เพิ่มขึ้น 12.09 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 61,127.04 ล้านบาท

หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด CPALL ปิด 54.00 บาท บวก 1 บาท, BDMS ปิด 25.75 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง, AOT ปิด 61 บาท บวก 1.25 บาท, PTT ปิด 35.75 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง, PTTEP ปิด 147 บาท บวก 3.50 บาท

บล.ยูโอบีเคย์เฮียน มองหุ้นไทยฟื้นตัวช่วงปลายปี หรือเกิด Santa Cluse Rally โดยมีปัจจัยหนุนที่สำคัญจากการเสนอขายกองทุน TESG ที่คาดว่าจะทำให้มีเม็ดเงินไหลเข้าตลาดหุ้นปีละ 1-1.5 หมื่นล้านบาท (เทียบกับช่วง LTF ที่ 7-8 หมื่นล้านบาท และ SSF ที่ 3-4 พันล้านบาท) ขณะที่ยังมีความคาดหวังต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล และการเติบโตของเศรษฐกิจที่จะเร่งตัวขึ้นในปี 67

ขณะที่มีความคาดหวังนักลงทุนที่ไปลงทุนต่างประเทศ จะนำเงินกลับไทยช่วงต้นปี 67 เพื่อ “รีเซตต้นทุน” และเงินทุนบางส่วนมีโอกาสไหลเข้าตลาดหุ้น ซึ่งจะหนุนการเกิด January Effect ช่วงต้นปีหน้า และการฟื้นตัวของหุ้นที่ได้รับผลกระทบจากดอกเบี้ย หรือปรับลงจนใกล้ช่วงล่างค่าเฉลี่ย PER ในระยะ 5-10 ปีที่ผ่านมาแล้ว (เกิด de-rating แล้ว) ทำให้หุ้นเหล่านี้มีโอกาสฟื้นตัว โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มการเงินและกลุ่มค้าปลีก

กลยุทธ์การลงทุน การกลับมายืนเหนือ 1,366 จุด ทำให้ภาพตลาดฟื้นตัวในกรอบ 1,366-1,430 จุด โดยช่วงสั้น ดัชนีมีโอกาสลุ้นขึ้นทดสอบระดับ 1,400 จุด กลุ่มหุ้นที่กระแสเงินสดดีและปันผลสูง ค่อนข้างยืนราคาได้ดีและแข็งแกร่งกว่าจะเป็นตัวประคองตลาด และอาจทำให้หุ้นกลาง-หุ้นเล็ก รวมถึงหุ้นที่ไวต่อปัจจัยดอกเบี้ย มีโอกาสฟื้นตัวได้ดีในช่วง 2 เดือนนี้

ปิดท้าย นักวิเคราะห์ บล. พาย ประเมินแนวโน้มกำไรไตรมาส 4/66 ของกลุ่มแบงก์ คาดว่าจะอยู่ที่ 4.2 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 4/65 ที่มีกำไร 3.4 หมื่นล้านบาท หรือเติบโต 20-25% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) จากการตั้งสำรองที่ลดลง และดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาขึ้น แต่หากเทียบจากไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) จะลดลง 10-15% เนื่องจากไตรมาส 4 โดยปกติมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น เช่น ค่าใช้จ่ายด้านพนักงาน และการตลาด

ขณะที่ปี 66 คาดกำไรกลุ่มแบงก์จะอยู่ที่ 2 แสนล้านบาท โต 18.5% จากปี 65 ที่มีกำไรอยู่ที่ 1.7 แสนล้านบาท โดย 9 เดือน ปี 66 มีกำไรที่ 1.58 แสนล้านบาท ส่วนปี 67 มองกำไรกลุ่มแบงก์จะอยู่ที่ 2.26 แสนล้านบาท โต 12% มาจาก NIM ที่เพิ่มขึ้น และสินเชื่อโต ส่วนการตั้งสำรองหนี้มีแนวโน้มลดลงเล็กน้อย ซึ่ง NPL ยังเป็นจุดเปราะบางของธนาคาร หุ้น Top pick ยังเป็น BBL แนะซื้อ ให้ราคาเป้าหมาย 203 บาท และ KTB ให้เป้า 23 บาท.

อินเด็กซ์ 51

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ