ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 8 ธ.ค.66 ปิดที่ 1,380.99 จุด บวก 2.26 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 34,760.77 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 1,303.63 ล้านบาท
หุ้นไทยปิดบวกเล็กน้อย ได้หุ้นกลุ่มพลังงานและ ETRON ช่วยพยุง หลังราคาน้ำมันโลกเริ่มนิ่งและดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้นแรง แต่มูลค่าการซื้อขายเบาบาง เนื่องจากเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาว
หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด PTTEP ปิด 142 บาท บวก 1.50 บาท, DELTA ปิด 81 บาท บวก 5 บาท, CPALL ปิด 52.75 บาท ลบ 0.50 บาท, BANPU ปิด 6.75 บาท ลบ 0.25 บาท, AOT ปิด 60 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง
บล.ทิสโก้ ออกบทวิเคราะห์ ระบุว่า จากข้อมูล ณ วันที่ 8 ธ.ค.66 อัตราผลตอบแทนเงินปันผลของตลาดหุ้นไทยอยู่ที่ประมาณ 3.5% และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยอายุ 10 ปี อยู่ที่ประมาณ 2.8% ดังนั้น Earning Yield Gap ของตลาดหุ้นไทยอยู่ที่ประมาณ 0.7% หากพิจารณาจากค่าเฉลี่ยของ Earning Yield Gap ของตลาดหุ้นไทยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา อยู่ที่ประมาณ 4.5% แสดงว่าตลาดหุ้นไทยในปัจจุบันอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอยู่ประมาณ 3.8%
ดังนั้น ตลาดหุ้นไทยในปัจจุบันอาจถือได้ว่าอยู่ในระดับ “ถูก” เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในอดีต อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรพิจารณาปัจจัยอื่นๆประกอบการตัดสินใจลงทุนด้วย เช่น แนวโน้มเศรษฐกิจ ทิศทางอัตราดอกเบี้ย และปัจจัยพื้นฐานของหุ้นแต่ละตัวด้วย
ทิสโก้แนะนำหุ้นพื้นฐานเด่น MAJOR มองแนวโน้ม 4Q23F กำไรจะดีขึ้นจากหนัง Holly Wood เข้าฉายหลายเรื่อง และหนังไทยที่เป็นกระแสตอบรับดี ได้แก่เรื่อง สัปเหร่อและธี่หยด ซึ่งหนังไทยจะมีส่วนแบ่งรายได้มากกว่าหนังต่างประเทศ หนุนรายได้สื่อโฆษณาและอาหาร/เครื่องดื่ม จะเพิ่มขึ้นตามจำนวนผู้ชมที่กลับมาดูหนังมากขึ้น นอกจากนี้ คาดได้ประโยชน์จากมาตรการรัฐกระตุ้นการบริโภค ให้ราคาเป้าหมายตามพื้นฐาน 23.20 บาท
อีกตัว หุ้น TASCO ระบุว่า หลังสหรัฐฯผ่อนปรนการคว่ำบาตรเวเนซุเอลา TASCO อยู่ระหว่างการเจรจาซื้อน้ำมันดิบจาก PDVSA (บริษัทน้ำมันแห่งชาติของเวเนซุเอลา) คาดจะช่วยหนุนยอดขายและกำไรในปี 24F เติบโตสูง +45% ขณะที่ราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงแรง มองเป็นบรรยากาศการลงทุนเชิงบวกต่อหุ้น TASCO คาดส่งผลดีต่อมาร์จิ้น, เคาะเป้าให้ราคาพื้นฐาน 25 บาท!!
อินเด็กซ์ 51
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่