มงจะลงไหม มิสแกรนด์ หรือ หุ้น MGI เคาะไอพีโอ 4.95 บาท เตรียมเข้าเทรดใน mai ธ.ค.นี้

Investment

Capital Market

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

มงจะลงไหม มิสแกรนด์ หรือ หุ้น MGI เคาะไอพีโอ 4.95 บาท เตรียมเข้าเทรดใน mai ธ.ค.นี้

Date Time: 29 พ.ย. 2566 10:07 น.

Video

Sony ทำได้ยังไง ? หาเงินจากทุกสิ่ง แบบไม่ต้องวิ่งแข่งกับใคร | Digital Frontiers EP.51

Summary

Latest


สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) รายงานว่า  บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MGI โดยบริษัทได้กำหนด ราคาเสนอขายต่อประชาชนครั้งแรก หรือ IPO ที่ 4.95 บาทต่อหุ้น ระยะเวลาการเสนอขาย ตั้งแต่เวลา 09.00 น. ถึง 16.00 น. ของวันที่ 4, 6 และ 7 ธันวาคม 2566 โดยมีแผนจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ เร็วๆ นี้ 

ทั้งนี้ MGI ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการพาณิชย์จากการจัดประกวดนางงาม “มิสแกรนด์ ไทยแลนด์” และ “มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล” การบริหารจัดการศิลปิน และการจัดจำหน่ายสินค้าต่างๆ ได้แก่ สินค้าภายใต้ตราสินค้าของบริษัท อาทิ แบรนด์ “Miss Grand”, “NangNgam” และ MGI และสินค้าภายใต้ตราสินค้าอื่นๆ เป็นต้น

การเสนอขายหุ้นไอพีโอครั้งนี้บริษัทมีจำนวนหุ้นที่เสนอขายไม่เกิน 60,000,000 หุ้น คิดเป็นไม่เกินร้อยละ 28.57 ของจำนวนหุ้นที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัท ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทในครั้งนี้


โดยจะเสนอขายต่อบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ และผู้ลงทุนสถาบัน จำนวนไม่น้อยกว่า 45,000,000 หุ้น คิดเป็นไม่น้อยกว่าร้อยละ 75.00 ของหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายในครั้งนี้

จะเสนอขายต่อผู้มีอุปการคุณของบริษัท จำนวนไม่เกิน 9,000,000 หุ้น คิดเป็นไม่เกินร้อยละ 15.00 ของหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายในครั้งนี้

และเสนอขายต่อกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัท จำนวนไม่เกิน 6,000,000 หุ้น คิดเป็นไม่เกินร้อยละ 10.00 ของหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายในครั้งนี้

ที่มาของการกำหนดราคาเสนอขายและข้อมูลทางการเงินเพื่อประกอบการประเมินราคาหุ้นที่เสนอขายนั้นการกำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทที่เสนอขายในครั้งนี้พิจารณาจากอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้นของบริษัท (Price to Earnings Ratio : P/E Ratio) ทั้งนี้ ราคาหุ้นสามัญที่เสนอขายหุ้นละ 4.95 บาท คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E Ratio) เท่ากับ 11.76 เท่า โดยคำนวณกำไรสุทธิต่อหุ้นจากผลกำไรสุทธิในช่วง 4 ไตรมาสย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2566 ซึ่งเท่ากับ 88.40 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทหลังจากการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ (Fully Diluted) ซึ่งเท่ากับ 210 ล้านหุ้น จะได้กำไรสุทธิต่อหุ้น เท่ากับ 0.4209 บาท 


อย่างไรก็ดี P/E ของหุ้นดังกล่าว คำนวณจากผลการดำเนินงานในอดีต 4 ไตรมาสย้อนหลัง โดยที่ยังมิได้พิจารณาถึงผลการดำเนินงานในอนาคต ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญปัจจัยหนึ่งที่นักลงทุนควรพิจารณาในการตัดสินใจลงทุน รวมถึงแผนการนำเงินระดมทุนที่ได้จากประชาชนเป็นครั้งแรกไปใช้ในการลงทุนปรับปรุงตกแต่งอาคารสำนักงาน การลงทุนพัฒนาผลิตภัณฑ์สินค้าและผลิตรายการ การพัฒนาระบบสารสนเทศของบริษัท และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่นักลงทุนควรพิจารณาในการตัดสินใจลงทุน

บริษัทได้เปรียบเทียบอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (Price to Earnings Ratio : P/E) ของบริษัทจดทะเบียนอื่นที่มีลักษณะการประกอบธุรกิจที่คล้ายคลึงหรือใกล้เคียงกันกับบริษัทเพื่อประกอบการพิจารณาราคาเสนอขาย ทั้งนี้ บริษัทไม่มีบริษัทจดทะเบียนอื่นที่ประกอบธุรกิจเช่นเดียวกับบริษัทโดยตรง 

เนื่องจากบริษัทมีลักษณะการประกอบธุรกิจที่หลากหลายแตกต่างไปจากบริษัทอื่นๆ ดังนั้นบริษัทจึงพิจารณาข้อมูลของบริษัทจดทะเบียนที่มีลักษณะการประกอบธุรกิจที่คล้ายคลึงหรือใกล้เคียงกับการประกอบธุรกิจของบริษัทอย่างไรก็ดีบริษัทดังกล่าวอาจมีลักษณะการดำเนินธุรกิจประเภทสินค้าและบริการและมีการดำเนินธุรกิจในตลาดที่แตกต่างจากบริษัทโดยบริษัทที่มีความเหมาะสมในการร่วมเปรียบเทียบมีจำนวน 4 บริษัท  

การเปรียบเทียบเป็นอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (Price to Earnings Ratio: P/E) อ้างอิงข้อมูลในช่วงระยะเวลา 12 เดือน ย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 4 พฤศจิกายน 2565 ถึงวันที่ 3 พฤศจิกายน 2566


บริษัท เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ APCO อัตราส่วน P/E เฉลี่ย 36.25 เท่า

บริษัท โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ KISS อัตราส่วน P/E เฉลี่ย 35.90 เท่า

บริษัท คาร์มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ KAMART อัตราส่วน P/E เฉลี่ย 24.42 เท่า

บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ JKN ตราส่วน P/E เฉลี่ย 8.38 เท่า 


สำหรับการระดมทุนครั้งนี้บริษัทมีวัตถุประสงค์ในการนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหลักทรัพย์ในครั้งนี้ประมาณ284 ล้านบาท ภายหลังหักค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการเสนอขายหลักทรัพย์ ไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้


1. การลงทุนปรับปรุง ตกแต่งอาคารสำนักงาน ประมาณ 40 ล้านบาท 

2. การลงทุนพัฒนาผลิตภัณฑ์สินค้า และผลิตรายการ เพื่อเพิ่มความสามารถในการสร้างรายได้ในทุกช่องทาง ประมาณ 50 ล้านบาท 

3. การลงทุนพัฒนาขีดความสามารถของระบบสารสนเทศ (Information Technology) ประมาณ 20 ล้านบาท 

4. เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการ 174 ล้านบาท 


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ