อุตสาหกรรม K-POP ในวันนี้ เมื่อหุ้น YG ย่อตัว อนาคตจะเป็นอย่างไร?

Investment

Capital Market

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

อุตสาหกรรม K-POP ในวันนี้ เมื่อหุ้น YG ย่อตัว อนาคตจะเป็นอย่างไร?

Date Time: 15 ก.ค. 2566 12:00 น.

Video

ยุคนี้เก็บเงินอย่างเดียวไม่พอ! Gen Z มั่งคั่งได้ไง? กับ ท็อป Bitkub | Thairath Money Night Stand EP.29

Summary

#ThairathMoney พาไปเกาะกระแสดูว่าอุตสาหกรรม K-Pop สร้างเงินให้กับเกาหลีใต้มากน้อยแค่ไหน รวมถึงหุ้นของกลุ่ม K-Pop ตอนนี้เป็นอย่างไร และตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาหุ้น YG Entertainment โดยภาพรวมสดใสหรือไม่?

Latest


จากที่มีข่าวอึกทึกครึกโครมไปเมื่อสองสามวันที่ผ่านมา กับประเด็นฮอตที่ทางสำนักข่าวเกาหลีใต้ Munhwa Ilbo ได้รายงานข่าวว่า YG Entertainment ยังไม่มีความชัดเจนกับการต่อสัญญาของสมาชิกวงเกิร์ลกรุ๊ประดับโลกอย่าง “ตะลิซ” หรือ "ลิซ่า BLACKPINK" เนื่องจากยังไม่สามารถหาข้อตกลงร่วมกันได้ ก็ทำให้หุ้นของ YG Entertainment ดิ่งลงเกือบ 7% (วันที่ 12 ก.ค. 66 ที่ผ่านมา)

#ThairathMoney พาไปเกาะกระแสดูว่าอุตสาหกรรม K-Pop สร้างเงินให้กับเกาหลีใต้มากน้อยแค่ไหน รวมถึงหุ้นของกลุ่ม K-Pop ตอนนี้เป็นอย่างไร และตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาหุ้น YG Entertainment โดยภาพรวมสดใสหรือไม่ ต้องเผชิญกับสถานการณ์อะไรบ้างที่มากระทบต่อราคา และในอนาคตทิศทางจะเป็นอย่างไรต่อไป?

ปัจจุบันเรารู้จักประเทศเกาหลีใต้จากอะไร? ซีรีส์ เพลง ภาพยนตร์ ดารา ไอดอล เกม หรือการ์ตูนแอนิเมชัน ซึ่งหากว่ากันตามตรงสิ่งที่กล่าวไปทั้งหมดนั้น ก็ล้วนแต่เป็นการแสดงออกถึงภาพลักษณ์ของเกาหลีใต้ทั้งสิ้น และก็ต้องยอมรับว่าอุตสาหกรรมบันเทิงของเกาหลีใต้ขึ้นชื่อว่าใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก จนกลายเป็นสินค้าส่งออกหลักของประเทศที่สร้างเม็ดเงินอย่างมหาศาล 

อุตสาหกรรม K-POP โตแรงแค่ไหน?

โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเพลง K-POP ของเกาหลีใต้ที่ถูกพูดถึงและดูเหมือนว่าจะเป็นที่นิยมไปทั่วทุกมุมโลก ซึ่งจากภาพรวมพบว่า ความต้องการเพลง K-POP ทั่วโลก และผลประกอบการไตรมาสแรกที่แข็งแกร่ง ผลักดันให้บริษัทเพลงของเกาหลีใต้มีผลประกอบการที่ดีกว่าตลาดหุ้นและอุตสาหกรรมเพลงอื่นๆ โดยที่อุตสาหกรรม K-POP สามารถสร้างรายได้ให้กับเศรษฐกิจเกาหลีประมาณ 1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐต่อปี

ทั้งนี้ ยังพบว่าหุ้นกลุ่ม K-POP มีมูลค่าธุรกิจพุ่งขึ้นไปอยู่ที่ 5.4 พันล้านดอลลาร์ (หรือประมาณ 1.86 แสนล้านบาท) จากกำไรรายไตรมาสที่แข็งแกร่งในอุตสาหกรรม รวมทั้งจากความนิยมที่เพิ่มขึ้นทั่วโลกของวัฒนธรรม K-POP ในปีนี้

หุ้น 4 ยักษ์ใหญ่ K-POP สถานการณ์เป็นอย่างไร?

ขณะเดียวกันบริษัท K-POP 4 แห่งที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้มีราคาหุ้นเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 33% ในปี 2566 ซึ่งทำได้ดีกว่าเกณฑ์มาตรฐาน KOSPI ของเกาหลีใต้ โดยในบรรดาบริษัทเหล่านี้ หุ้นของ YG Entertainment เพิ่มขึ้นเป็นอันดับหนึ่งมากกว่า 100%, HYBE เพิ่มขึ้นมากกว่า 50% รวมทั้งหุ้นของ JYP Entertainment และ SM Entertainment เพิ่มขึ้น 90% และ 33% ตามลำดับ

นอกจากนี้ รายได้ของบริษัท K-POP ของเกาหลีใต้ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน เห็นได้จาก HYBE Corporation ที่มีรายได้ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2566 เพิ่มขึ้น 44.1% คิดเป็น 4.1 แสนล้านวอน (314.72 ล้านเหรียญสหรัฐ) (หรือประมาณ 1.11 หมื่นล้านบาท) แม้ว่าวง BTS วงหลักที่สร้างรายได้ให้กับต้นสังกัดจะหันไปโฟกัสงานเดี่ยวเพิ่มมากขึ้น แต่บริษัทก็ยังมียอดขายอัลบั้มเพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่าในไตรมาสแรกของปี 2566 (มกราคม-มีนาคม) นอกจากนี้ กำไรจากการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาสแรกอยู่ที่ 12.8% หรือใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา

ส่วนรายได้ของ JYP Entertainment เพิ่มขึ้น 74.1% คิดเป็น 1.18 แสนล้านวอน (90.43 ล้านเหรียญสหรัฐ) (หรือประมาณ 3.22 พันล้านบาท) เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 92.1% รายรับสุทธิของบริษัทยังเพิ่มขึ้น 155.1% จากปีก่อน โดยอยู่ที่ 4.27 หมื่นล้านวอน (32.72 ล้านเหรียญสหรัฐ) (หรือประมาณ 1.13 พันล้านบาท) ในขณะที่ยอดขายอัลบั้มเพิ่มขึ้น 66%

ขณะที่ฝั่งคู่แข่งอย่าง SM Entertainment ก็มีรายได้เพิ่มขึ้น 20.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี เป็น 2.03 แสนล้านวอน (156.27 ล้านเหรียญสหรัฐ) (หรือประมาณ 5.40 พันล้านบาท) ซึ่งนับเป็นบริษัทที่มีมูลค่าตลาดสูงสุดเป็นอันดับสองในบรรดาบริษัท K-POP เกาหลีใต้ทั้งหมด มีกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 4.9% เมื่อเทียบปีต่อปี เป็น 7.22 หมื่นล้านวอน (55.33 ล้านเหรียญสหรัฐ) (หรือประมาณ 1.97 พันล้านบาท) นอกจากนี้ รายได้จากคอนเสิร์ตยังเพิ่มขึ้น 26 เท่าจากปีที่ผ่านมา เป็น 1.92 หมื่นล้านวอน (14.71 ล้านเหรียญสหรัฐ) (หรือประมาณ 524 ล้านบาท)

YG โตแค่ไหนที่ผ่านมา?

ทั้งนี้ YG Entertainment บริษัท  K-POP ยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้ยังมีรายได้ประจำไตรมาสเพิ่มขึ้น 108.6% เมื่อเทียบ YoY โดยอยู่ที่ 1.57 แสนล้านวอน (120.68 ล้านเหรียญสหรัฐ) (หรือประมาณ 4.29 พันล้านบาท) ในปี 2566 รวมทั้งกำไรสุทธิของ YG ยังเพิ่มขึ้น 437.5% เมื่อเทียบ YoY เป็น 3.13 หมื่นล้านวอน (23.98 ล้านเหรียญสหรัฐ) (หรือประมาณ 855 ล้านบาท)

ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาหุ้น YG Entertainment โดยภาพรวมสดใสหรือไม่ ต้องบอกเลยว่าสถานการณ์ขึ้นๆ ลงๆ เห็นได้จาก ช่วงต้นปีมีข่าวการสิ้นสุดสัญญาของ จี-ดราก้อน หุ้นของบริษัท YG Entertainment ร่วงจาก 9.12 หมื่นวอน (ประมาณ 2,400 บาท) เหลือ 8.46 หมื่นวอน (ประมาณ 2,200 บาท) หรือลดลงประมาณ 7.14% เมื่อเทียบกับวันก่อนหน้า และลดต่ำลงเหลือ 8.13 หมื่นวอน (ประมาณ 2,100 บาท) ในวันที่ 2

ซึ่งแค่เพียง 2 วัน มูลค่าหุ้นของบริษัทลดลงถึง 10.33% ทำให้บริษัทมีมูลค่าลดลงถึง 1.7 แสนล้านวอน (ประมาณ 456 ล้านบาท) จากมูลค่าสุทธิบริษัทที่อยู่ที่ 1.53 ล้านล้านวอน (ประมาณ 4.1 หมื่นล้านบาท) ซึ่ง ณ ตอนนั้นความกังวลของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 

เนื่องจากพวกเขามองว่า G-Dragon เป็นศิลปินที่มีบทบาทสำคัญใน YG Entertainment ซึ่งช่วยยกระดับบริษัทให้เป็น Big 3 ของเกาหลีใต้ รวมทั้ง T.O.P และ Daesung ยังได้มีการยกเลิกสัญญากับ YG Entertainment และ แทยังที่ย้ายไปอยู่ในความดูแลของ The Black Label บริษัทในเครือ 


รวมไปถึง ‘บังเยดัม’ และ ‘มาชิโฮะ’ สมาชิกวง TREASURE ที่ได้มีการประกาศสิ้นสุดสัญญากับทาง YG หลังจากพักงานมาระยะหนึ่ง ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ดูเหมือนจะเป็นการปิดฉากชะตากรรมของกับบริษัท ทำให้ผู้ถือหุ้นกังวลมากขึ้น


และดูเหมือนจะเป็นประเด็นที่น่าจับตาอีกครั้ง จากการไม่สามารถหาข้อตกลงร่วมกันเกี่ยวกับการต่อสัญญาของ ลิซ่า BLACKPINK กับทาง YG Entertainment ได้ แม้ว่าการเจรจาเกี่ยวกับเรื่องสัญญาของอีก 3 ศิลปินที่เหลืออย่าง "เจนนี่ - จีซู - โรเซ่" จะมีแนวโน้มเป็นไปด้วยความราบรื่น เนื่องจากเป็นวงเกิร์ลกรุ๊ปที่ประสบความสำเร็จในระดับโลก ซึ่งจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ก็ทำให้หุ้นของ YG Entertainment ดิ่งลงเกือบ 7% แต่อีกวันก็กลับมาสดใสดังเดิม

ยังไปต่อได้ แม้ไร้ศิลปิน

นั่นแสดงให้เห็นว่าการต่อสัญญา หรือการหันหลังให้ของบรรดาศิลปิน K-POP นั้นต่างส่งผลต่อหุ้นของ YG แทบทั้งสิ้น แต่กระนั้นด้วยกระแสนิยมของผลงาน K-POP ยังคงเป็นที่ต้องการ และด้านค่ายเพลงอย่าง YG เอง ก็มีศิลปินที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมอยู่ในสังกัดอีกมากมาย จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าแม้จะเกิดสถานการณ์ความผันผวนภายในองค์กรเท่าใดก็อาจจะส่งผลกระทบต่อภาพรวมบริษัทในช่วงระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น แต่ก็กลับมาสดใสดังเดิมได้เพียงชั่วพริบตา 

จากข้อมูลล่าสุดพบว่าในช่วงที่มีข่าวออกมาอย่างหนาหูนั้น พบว่าส่งผลต่อภาพรวมของบริษัทเช่นกัน โดยความเคลื่อนไหวหุ้น YG หรือบริษัท YG Entertainment Inc. ที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมากว่า 13.39% หรือลดลง 11,600 วอน คิดเป็น 317.13 บาทต่อหุ้น มาอยู่ที่ 71,700 วอน หรือประมาณ 1,960 บาท (ข้อมูล ณ วันที่ 14 ก.ค. 66) ปัจจุบันมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด 1.34 ล้านล้านวอน หรือประมาณ 3.6 หมื่นล้านบาท


และแม้ว่าเหตุการณ์ต่างๆ จะกดดันราคาหุ้นในระยะสั้นสักเท่าไร แต่ทั้งนี้หากมองถึงระยะยาวพบว่า YG ยังคงมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะด้วยภาพลักษณ์ของค่ายเอง รวมถึง YG ก็ยังมีดีที่ผลงาน และตัวชูโรงที่ยังคงเรียกกระแสนิยมได้อย่างเรื่อยๆ… 


อ้างอิง CNBC,  Asia Fund Managers, AllkpopBloomberg


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ