เป็นที่สนใจอย่างมากในช่วงนี้ สำหรับ บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK หลังเลื่อนส่งงบการเงินรวม และงบการเงินเฉพาะกิจการ สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2565 เป็นรอบที่สาม ในวันที่ 19 เม.ย. 2566 ที่ผ่านมา
#ไทยรัฐมันนี่ รวบรวมข้อมูลเหตุการณ์สำคัญของ STARK ตั้งแต่สมัยยังเป็นหุ้น SMM ดังนี้
- 22 กุมภาพันธ์ 2562 บริษัท สยามอินเตอร์มัลติมีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ SMM ถูกตลาดหลักทรัพย์ฯ ขึ้นเครื่องหมาย C หลังส่วนของผู้ถือหุ้นต่ำกว่า 50% ของทุนชำระแล้ว สำหรับงบการเงินประจำปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2561
- 7 มีนาคม 2562 บริษัทฯ แจงแนวทางแก้ไข พร้อมพิจารณาการปรับโครงสร้างกิจการของบริษัทฯ และการออกและจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน
- 10 กรกฎาคม 2562 บริษัทมีการเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการของบริษัทฯ 8 ราย โดยมีนายชนินทร์ เย็นสุดใจ เป็นประธานกรรมการ และนายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ เป็นกรรมการ
- 15 กรกฎาคม 2562 SMM แจ้งมติผู้ถือหุ้น เปลี่ยนแปลงชื่อบริษัท ชื่อย่อหลักทรัพย์ และตราประทับของบริษัท เป็น บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK มาดำเนินธุรกิจด้านสายไฟเต็มตัว
- 22 กรกฎาคม 2562 สำนักงาน ก.ล.ต. แจ้งข่าวของ STARK ในการปรับย้ายหมวดธุรกิจ จากเดิมคือหมวดธุรกิจสื่อและสิ่งพิมพ์ ในอุตสาหกรรมบริการ เป็นหมวดธุรกิจวัสดุอุตสาหกรรมและเครื่องจักร ในอุตสาหกรรมสินค้าอุตสาหกรรม
- 1 ตุลาคม 2562 มีการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงทุนชำระแล้วของบริษัทฯ การแก้ไขตัวเลขการลดทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ และการแก้ไขวาระการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น
- 19 พฤศจิกายน 2562 ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปลดเครื่องหมาย C หลักทรัพย์ STARK หลังส่วนของผู้ถือหุ้นไม่น้อยกว่า 50% ของทุนชำระแล้ว สำหรับงบการเงิน ไตรมาสที่ 3 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2562
- จบปี 2562 ถึง 9 เดือน ปี 2565 เป็นต้นมา ผลประกอบการของ STARK พลิกมีกำไรสุทธิ 123.92 ล้านบาท จากในปี 2561 ขาดทุนสุทธิ 183.65 ล้านบาท และมีผลประกอบการที่เติบโตดีมาโดยตลอด โดยงบปี 2563 มีกำไรสุทธิ 1,608.66 ล้านบาท, งบปี 2564 มีกำไรสุทธิ 2,783.11 ล้านบาท และงบ 9 เดือน ปี 2565 มีกำไรสุทธิ 2,216.47 ล้านบาท
จุดเริ่มต้นของความอลเวง
- 23 พฤษภาคม 2565 ผู้ถือหุ้นมีมติ เห็นชอบ ให้บริษัทเข้าซื้อหุ้นใน LEONI Kabel GmbH ประกอบธุรกิจโซลูชันสายเคเบิลสำหรับยานยนต์ ทั้งแบบมาตรฐานและแรงดันสูง การใช้งานข้อมูลและเซนเซอร์ รวมถึงโซลูชันการชาร์จแบบ e-mobility สำหรับการใช้งานในยานยนต์ในต่างประเทศ โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมทั้งสิ้นไม่เกิน 560 ล้านยูโร หรือประมาณไม่เกิน 20,588.90 ล้านบาท
- 1 สิงหาคม 2565 อนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียนจำนวน 1,500,000,000 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม จำนวน 15,875,206,607 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่จำนวน 17,375,206,607 บาท เพื่อรองรับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน ให้แก่บุคคลในวงจำกัด (PP)
- 10 ตุลาคม 2565 STARK แจ้งว่ามีนักลงทุนที่จองซื้อและได้รับจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนจำนวนรวม 12 ราย
ยกเลิกดีลซื้อธุรกิจ
- 13 ธ.ค. 2565 บริษัทฯ แจ้งการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์การใช้เงินเพิ่มทุนที่ได้รับจากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่บุคคลในวงจำกัด จากเดิมจะซื้อ LEONI Kabel GmbH หลังพิจารณาแล้วเห็นว่ามีเหตุการณ์ต่างๆ และมีการเปลี่ยนแปลงในทางลบหลายประการ และเป็นการลงทุนที่อาจไม่คุ้มค่า
- 21 ธันวาคม 2565 ประกาศโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงิน (Treasury Stock) เนื่องจากสภาพคล่องส่วนเกิน ของบริษัทประกอบด้วย กระแสเงินสดจากการประกอบกิจการของบริษัทฯ และเงินเพิ่มทุนที่ได้รับจากการ PP
- 27 มกราคม 2566 แจ้งมติคณะกรรมการบริษัทฯ เรื่อง การแต่งตั้งและเปลี่ยนแปลงผู้บริหาร และโครงสร้างองค์กรของบริษัทฯ โดยมีนายมงคล ตั้งใจพิทักษ์ ดำรงตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
- 10 กุมภาพันธ์ 2566 บริษัทได้รับหนังสือแจ้งลาออกกะทันหันของนายมงคล ตั้งใจพิทักษ์ ตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ด้วยเหตุผลส่วนตัว โดยเป็นการดำรงตำแหน่งได้ไม่ถึง 1 เดือน
- 28 กุมภาพันธ์ 2566 STARK แจ้งข่าวต่อตลาดหลักทรัพย์ ว่ามีความจำเป็นต้องนำส่งงบการเงินรวมและงบการเงินเฉพาะกิจการ สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2565 ล่าช้า (ครั้งที่ 1) โดยให้เหตุผลว่า ข้อมูลบางส่วนอยู่ระหว่างการดำเนินงานของบริษัทฯ และการตรวจสอบของผู้สอบบัญชี คาดจะส่งงบการเงินได้ภายในวันที่ 31 มีนาคม 2566
โดนสั่งหยุดเทรด
- 1 มีนาคม 2566 ตลาดหลักทรัพย์ขึ้นเครื่องหมาย SP หลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียน กรณีไม่ส่งงบการเงิน รวม 7 ราย หนึ่งในนั้นมี STARK อยู่ด้วย
- 31 มีนาคม 2566 STARK แจ้งข่าวต่อตลาดหลักทรัพย์ ว่ามีความจำเป็นต้องนำส่งงบการเงินรวมและงบการเงินเฉพาะกิจการ สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2565 ล่าช้า (ครั้งที่ 2) โดยให้เหตุผลว่าข้อมูลบางส่วนอยู่ระหว่างการดำเนินงานของบริษัทฯ และการตรวจสอบของผู้สอบบัญชี โดยบริษัทฯ คาดว่าจะสามารถนำส่งงบการเงินได้ภายในวันที่ 21 เมษายน 2566 พร้อมแจ้งว่ามีการเปลี่ยนแปลงรายชื่อ CFO และผู้ควบคุมดูแลการทำบัญชี
- 17 เมษายน 2566 กรรมการลาออก 1 ราย คือนายชินวัฒน์ อัศวโภคี กรรมการบริษัท
- 19 เมษายน 2566 นายชนินทร์ เย็นสุดใจ ประธานกรรมการบริษัท ลาออก พร้อมกรรมการคนอื่นรวม 7 ราย พร้อมแจ้งเปลี่ยนแปลงรายชื่อ CFO และผู้ควบคุมดูแลการทำบัญชี
คุณวนรัชต์ลงคุมเอง
- 19 เมษายน 2566 แจ้งข่าวต่อตลาดหลักทรัพย์ ว่ามีความจำเป็นต้องนำส่งงบการเงินรวมและงบการเงินเฉพาะกิจการ สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31ธันวาคม 2565 ล่าช้า (ครั้งที่ 3) โดยมีนายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ เป็นกรรมการ คาดว่าจะสามารถนำส่งงบการเงินดังกล่าวได้ภายในช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน 2566
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าติดตามสำหรับ STARK คือการจัดการกับหุ้นกู้ที่ได้ออกไปแล้วจำนวน 5 ชุด ที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในปี 2566-2568 เพราะอาจจะส่งกระทบกับผู้ถือหุ้นกู้ มูลค่ารวมเกือบหมื่นล้านบาท ซึ่งการแก้ไขวิกฤติในครั้งนี้จะผ่านพ้นไปด้วยดีหรือไม่ และอนาคตของ STARK จะเป็นอย่างไรต่อไป ยังต้องติดตามกันต่อ