จับตา SIRI ได้ส้มหล่นเข้า SET100 หาก STARK ส่งงบไม่ทันวันนี้ ชี้ระวังเจอแรงขายแม้มีปัจจัยหนุน

ผู้สื่อข่าว Thairath Money รายงานความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจของหุ้น บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ที่ปัจจุบันถูกขึ้นเครื่องหมาย SP หรือพักการซื้อขายหลังจากบริษัทฯ ไม่สามารถส่งงบการเงินได้ทันตามกำหนด โดยวันที่ 28 ก.พ. ที่ผ่านมา นายชนินทร์ เย็นสุดใจ ประธานกรรมการ STARK ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ ว่า บริษัทฯ มีความจำเป็นต้องนำส่งงบการเงินรวมและงบการเงินเฉพาะกิจการ สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2565 ล่าช้ากว่าที่กฎหมายและกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกำหนดไว้ เนื่องจากข้อมูลบางส่วนอยู่ระหว่างการดำเนินงานของบริษัทฯ และการตรวจสอบของผู้สอบบัญชี โดยบริษัทฯ คาดว่าจะสามารถนำส่งงบการเงินดังกล่าวได้ภายในวันที่ 31 มีนาคม 2566

นักวิเคราะห์ บล.ดาโอ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า วันนี้ STARK มีกำหนดส่งงบ หากไม่ส่งตลาดอาจจะขึ้น “SP” จนกว่าจะส่งงบ หากพ้นจาก 31 มี.ค. และยังไม่มีการส่งงบ นับต่อไปอีก 3 วัน SET จะมีการประกาศถอด STARK ออกจาก SET100 โดย SIRI มีโอกาสเข้ามาแทน STARK ในดัชนีหุ้น SET100

นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า สำหรับกรณีที่ STARK เสี่ยงที่จะไม่ส่งงบการเงินไม่ทันในวันนี้นั้น หากเกิดขึ้นจริงจะส่งผลให้มีการเลื่อนนำหุ้นลำดับถัดไป โดยหุ้นที่จะได้รับประโยชน์จากการเข้ามาจดทะเบียนแทน คือ SIRI

ทั้งนี้ในส่วนของ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน ไม่ได้วิเคราะห์ในด้านปัจจัยพื้นฐานของบริษัทฯ  แต่ที่ผ่านมาการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคา SIRI ส่วนหนึ่งมาจากการที่ผู้บริหารของบริษัทมีโอกาสที่จะเป็นแคนดิเดต นายกรัฐมนตรี ทำให้เกิดแรงเก็งกำไรเกิดขึ้น ทั้งนี้หากบริษัทฯ ได้รับการจัดอันดับเข้า SET100 จริงอาจต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไร

ลุ้นบันทึกกำไรพิเศษ

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ เปิดเผยว่า ความเคลื่อนไหวหนึ่งที่น่าสนใจของ แสนสิริ คือ การขายกิจการโรงเรียนสาธิตพัฒนา มูลค่า 1.2 พันล้านบาท SIRI แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า บริษัท เอ็นอีดี แมเนจเม้นท์ จำกัด และบริษัท อาณาวรรธน์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทฯ ได้จำหน่ายทรัพย์สิน และสิทธิเกี่ยวกับกิจการของโรงเรียนสาธิตพัฒนา ให้แก่ บริษัท เดอะ เบสท์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด

โดยเป็นการจำหน่ายทรัพย์สินและสิทธิเกี่ยวกับกิจการของโรงเรียนสาธิตพัฒนา อันได้แก่ ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงเรียน พร้อมด้วยใบอนุญาตประกอบกิจการโรงเรียน ให้แก่ผู้ซื้อ ซึ่งเป็นผลให้กิจการโรงเรียนโอนไปยังผู้ซื้อ โดยครู พนักงาน และลูกจ้างของโรงเรียนที่มีอยู่ยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ มูลค่ารวม 1,210 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาที่ตกลงร่วมกันระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย และเป็นราคาที่สูงกว่ามูลค่าตามบัญชี ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565

การขายสินทรัพย์ดังกล่าว จะไม่มีผลกระทบต่อธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แต่จะช่วยหนุนเงินสดในมือ จากสิ้นปี 2565 ที่ระดับ 2.66 พันล้านบาท และช่วยลดระดับ D/E จาก ณ สิ้นปี 2565 ที่ 1.9X และคาดว่าจะบันทึกกำไรพิเศษจากการขายสินทรัพย์ในครั้งนี้ เนื่องจากเป็นการขายสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงกว่า Book Value ส่งผลให้มี Upside ต่อคาดการณ์กำไรปี 2566 โดยเรายังคงแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมาย 2.00 บาท