
นักวิเคราะห์จับตาหุ้น OR อาจพลิกขาดทุนในไตรมาสที่ 4 รับแรงกดดันจากโรงกลั่นหยุดน้ำมัน ต้องนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศ คาดไตรมาส 1 จะกลับมามีกำไร มองเป็นโอกาสลงทุนสำหรับการฟื้นตัวธุรกิจในระยะยาว
บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน เปิดเผยว่า บริษัทประเมินผลการดำเนินงานของบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2565 คาดว่า ขาดทุนสุทธิ ที่ราว 809 ล้านบาท พลิกขาดทุน ซึ่งต่ำกว่าที่เคยประเมินไว้ก่อนหน้านี้ เพราะกำไรขั้นต้นต่อลิตรของธุรกิจ Mobility ถูกกระทบจากต้องนำเข้าน้ำมันที่ต้นทุนสูงกว่าการซื้อในประเทศมาขายในช่วงที่ขายภายในประเทศขาดแคลนจากการปิดซ่อมโรงกลั่น ซึ่งสาเหตุดังกล่าวเป็นตัวฉุดผลประกอบการ
อย่างไรก็ตาม เราคาดผลกระทบดังกล่าวจะจบในไตรมาสที่ 4 เพียงไตรมาสเดียวเท่านั้น ส่งให้อัตรากำไรฟื้นในไตรมาสที่ 1 ของปี 2566 และกลับมาพลิกทำกำไรได้ ทั้งนี้เราปรับประมาณการกำไรปกติ 2565-2566 ลง 18% และ 13% ตามลำดับ พร้อมกับปรับราคาเป้าหมายเป็น 26.0 บาท/หุ้น จากเดิม 29 บาทต่อหุ้น
สำหรับคำแนะนำ Trading Buy มองรอผ่านช่วงประกาศงบผลการดำเนินงานไตรมาส 4 ของปี 2565 ไปก่อน จึงเป็นโอกาสซื้อเก็งกำไรการฟื้นตัวของธุรกิจทุกส่วนใน 2566 และระยะยาว
บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า(ประเทศไทย) เปิดเผยว่า บริษัทคาดกำไรปกติไตรมาสที่ 4 ปี 2565 ที่ 413 ล้านบาทลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า โดยมีสาเหตุหลักมาจากค่าการตลาดน้ำมันที่ลดลงมาอยู่ในระดับ 0.60 บาท/ลิตร
สำหรับแนวโน้มธุรกิจในปี 2566 เบื้องต้นคาดกำไรปกติในไตรมาสที่ 1 จะลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากฐานที่สูงเนื่องจากไม่มีรายการกำไรจากสต๊อกน้ำมันที่สูงเหมือนปีก่อน แต่คาดสามารถฟื้นตัวได้จากไตรมาสก่อน จากค่าการตลาดที่มีแนวโน้มฟื้นตัวกลับมาอยู่ในระดับ 0.70-1.00 บาท/ลิตร
ทั้งนี้ปรับราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2566 ลงเป็น 25.00 บาท/หุ้น มี Upside +8.7% ในระยะสั้นราคาหุ้นมีโอกาสถูกกดดันจากแนวโน้มกำไร 4Q65 ที่อ่อนแอ รวมถึงยังไม่มีปัจจัยบวกในช่วง 3-6 เดือนข้างหน้า จึงคงคำแนะนำ “TRADING”