ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 4 ม.ค.66 ปิดที่ 1,673.25 จุด ลดลง 5.72 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 76,428.64 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 121.17 ล้านบาท
ฝ่ายกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ ให้มุมมองตลาดหุ้น ปี 66 เป็นปีที่ท้าทายของการลงทุนอีกปี เนื่องจากประเมินว่าเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวลงต่อเนื่อง แถมมีสัญญาณบ่งชี้ความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอยมากขึ้นเรื่อยๆ โดย Jefferies ผู้ให้บริการด้านวาณิชธนกิจระดับโลก คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในครึ่งปีหลัง ฉะนั้นปลายไตรมาส 1 ต่อเนื่องไตรมาส 2 ทิสโก้คาดว่าจะเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญที่ต้องประเมินตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆอีกครั้งเพื่อจะให้เห็นภาพการลงทุนที่ชัดเจนขึ้น
นอกจากนี้ การดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางสำคัญต่างๆ ยังมีแนวโน้มเข้มงวดอยู่ ด้วยการขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องและอาจคงดอกเบี้ยอยู่ในระดับสูงตลอดทั้งปี 66 ขณะที่กับธนาคารกลางสหภาพยุโรป (ECB) จะเริ่มลดขนาดงบดุลลงเดือนละ 1.5 หมื่นล้านยูโรตั้งแต่เดือน มี.ค.66 เป็นต้นไป ดังนั้น แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นและการดึงสภาพคล่องออกจากระบบมากขึ้น จะเป็นโจทย์การลงทุนที่ท้าทายมากในปีนี้
สำหรับตลาดหุ้นไทย ยังคงมุมมองเชิงบวกใน 3-4 เดือนข้างหน้า มีหลายปัจจัยหนุน ดังนี้ 1.คาดเศรษฐกิจไทยยังมีโมเมนตัมการเติบโตที่ดีจากแนวโน้มการท่องเที่ยว ฟื้นตัวแข็งแกร่ง และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ จากภาครัฐ 2.จีนเปิดประเทศเร็วกว่าคาด ซึ่งไทยได้ประโยชน์โดยตรง
3.โอกาสเกิดการเลือกตั้งครึ่งแรกของปีนี้ ซึ่งปกติตลาดหุ้นไทยมักจะตอบสนองในทางบวก 3-6 เดือนก่อนล่วงหน้า 4.ข้อมูลสถิติในเชิงบวกตลาดหุ้นไทยมักปรับตัวขึ้นในไตรมาส 1 ของทุกปี โดยนับตั้งแต่ปี 53 เป็นต้นมา มีโอกาสมากกว่า 90% และให้ผลตอบแทนเป็นบวกเฉลี่ย +3.4% แต่หากไม่คำนึงถึงปี 63 ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤติโควิด ผลตอบแทนจะเป็นบวกเฉลี่ย +6.1%
ทิสโก้มอง SET Index ในช่วง 3-4 เดือนข้างหน้านี้มีโอกาสแกว่งซิกแซ็กขึ้นไปที่เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ในกรณีฐานที่ 1,700-1,720 จุด และในกรณีดีที่ 1,750-1,780 จุด แนะกลยุทธ์ลงทุน ด้วยช่วงเวลานี้กำลังเข้าสู่การประกาศผลประกอบการและจ่ายเงินปันผลจึงเน้นไปที่กำไรและเงินปันผลซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของหุ้นแต่ละตัว
หุ้นเด่นเดือน ม.ค.แนะนำ AP, BBL, CENTEL, EGCO, INTUCH, KKP, MAKRO, PTTEP และ TU ด้านเทคนิคให้แนวรับสำคัญที่ 1,650–1,640–1,630 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1680, 1,700–1,720 จุด!!
อินเด็กซ์ 51