ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 10 พ.ย.65 ปิดที่ 1,619.23 จุด ลดลง 3.22 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 59,801.62 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,021.10 ล้านบาท
หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด PTTEP ปิด 189.50 บาท ลบ 3.50 บาท, PTT ปิด 34.25 บาท ลบ 0.75 บาท, BH ปิด 233 บาท บวก 9 บาท, MINT ปิด 29.75 บาท บวก 0.75 บาท, BANPU ปิด 12.70 บาท บวก 0.10 บาท
หุ้นไทยปรับตัวลงจากแรงกดดันจาก sentiment ตลาดหุ้นต่างประเทศที่ไม่ดี ขณะที่นักลงทุนบางส่วนชะลอการลงทุนรอการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ
บล.หยวนต้า ระบุเงินบาทแม้จะทรงตัว แต่ถือว่ายังเคลื่อนไหว Outperform ภูมิภาค สะท้อนทิศทางกระแสเงินทุนยังไหลเข้า แต่การเคลื่อนไหวของหุ้นรายตัว อาจมีความผันผวนจากการเปิดเผย
ผลประกอบการ 3Q65 รวมถึงแรงขายเพื่อลดความเสี่ยง ระหว่างรอดูอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ
แนะกลยุทธ์ สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ไม่มาก แนะนำพักเงินในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว หรือหุ้นที่คาดผลประกอบการ 3Q65 จะออกมาดี เช่น BBL, RATCH, CPALL, BEM เป็นต้น
นอกจากนี้ยังแนะ “สะสม” หุ้น DPAINT หลังราคาหุ้นปรับตัวลงตามภาวะตลาดที่ผันผวน ขณะที่คาดว่าจะรายงานผลดำเนินงานไตรมาส 3 คาดกำไรเติบโตทั้ง YoY และ QoQ แนะนำ “สะสม”
ส่วนกรณีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ต.ค. เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 อยู่ที่ 46.1 สูงสุดในรอบ 10 เดือน เป็น Sentiment เชิงบวกต่อกลุ่ม Domestic play เช่น BBL, SCB, CPALL, BJC, MINT, TACC, SPALI
ด้านมุมมอง บล.ทิสโก้ มองตลาดแกว่งพักฐานตามทิศทางราคาน้ำมันและความไม่แน่นอนของผลเลือกตั้งสหรัฐฯ โดยเฉพาะวุฒิสภาที่ทั้ง 2 พรรคได้ที่นั่งเท่ากันที่ 48 ที่นั่ง และต้องเลือกตั้งชิงดำกันใหม่ในรัฐจอร์เจียในต้น ธ.ค.65
ขณะที่ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ (ตลาดคาดโต 7.9% YoY) และ MSCI Review ที่คาดว่า TLI ได้คัดเลือกเข้าคำนวณดัชนี!!
อินเด็กซ์ 51