หุ้นโรงกลั่นร่วง!!

Investment

Capital Market

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

หุ้นโรงกลั่นร่วง!!

Date Time: 18 มิ.ย. 2565 05:08 น.

Summary

  • ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 17 มิ.ย.65 ปิดที่ 1,559.39 จุด ลดลง 1.71 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 101,339.12 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 1,611.42 ล้านบาท

Latest

การบินไทยแต่งตั้งกรรมการชุดใหม่ เดินหน้าขอศาลยกเลิกคำสั่งฟื้นฟูกิจการ ปักธงเข้า SET ก.ค.นี้

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 17 มิ.ย.65 ปิดที่ 1,559.39 จุด ลดลง 1.71 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 101,339.12 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 1,611.42 ล้านบาท

หุ้นไทยยังคงผันผวนจากแรงขายหุ้นในกลุ่มโรงกลั่น หลังรัฐขอความร่วมมือให้นำส่งค่าการกลั่นส่วนเกินจากอัตราปกติเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นเวลา 3 เดือน ราว 6,000-7,000 ล้านบาทต่อเดือน กดดันราคาหุ้นในกลุ่มโรงกลั่นปรับตัวลงทันที

บล.เคทีบีเอสที ออกบทวิเคราะห์มีมุมมองเป็นลบต่อกลุ่มพลังงาน ชี้ว่าการขอความร่วมมือลักษณะนี้แม้จะช่วยลดผลกระทบระยะสั้น แต่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในการลงทุนในธุรกิจพลังงานของไทยระยะยาว โดยเฉพาะนักลงทุนต่างชาติ หากตัวเลขเงินอุดหนุนเป็นไปตามข่าว จะส่งผลกระทบต่อกำไร (หลังหักภาษี) ของกลุ่มโรงกลั่นปี 65 ในช่วง 1.8-4 พันล้านบาท ขึ้นอยู่กับส่วนแบ่งตลาดของแต่ละบริษัท

หุ้นโรงกลั่นที่อยู่ในความดูแลของเคทีบีเอสที จะเห็น downside ต่อประมาณการกำไรปี 65 ราว 12-18% เรียงจากมากไปน้อย PTTGC, SPRC, TOP (หากตัดกำไรจากการขายหุ้น GPSC ออกไป TOP จะได้รับผลกระทบมากสุด 20%)

แนะเลี่ยงลงทุนหุ้นโรงกลั่นออกไปก่อน จนกว่าจะมีความแน่นอนในรูปแบบของเงินอุดหนุน และให้ลงทุนหุ้นพลังงานต้นน้ำ คือ PTTEP (เป้า 190 บาท) และ BANPU (เป้า 16 บาท) เชื่อว่าจะรายงานกำไรปกติ Q2/65 ที่แข็งแกร่งจากราคาพลังงาน (น้ำมัน, ถ่านหิน, ก๊าซ) ที่สูงขึ้นจากการคว่ำบาตรรัสเซียและปริมาณสำรองทั่วโลกที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย

บล. เอเซียพลัส ระบุว่า ค่าการกลั่นที่สูงขึ้นมาจากสงครามยูเครน-รัสเซีย ทำให้ supply รวมตลาดโลกลดลง ถือเป็นภาวะผิดปกติ และอาจเป็นเพียงชั่วคราวเท่านั้น หากรัฐเข้ามาแทรกแซงบังคับให้ปรับลดค่าการกลั่นเพื่อให้ราคาขายปลีกหน้าโรงกลั่นปรับลง อาจทำให้ผู้ประกอบการหันไปส่งออกมากขึ้น เพราะได้ราคาสูงกว่าขายในประเทศ รวมถึงทำให้ความน่าสนใจลงทุนหุ้นโรงกลั่นลดลงอย่างมาก เพราะอาจเกิดการแทรกแซงได้อีก ซึ่งที่ผ่านมาธุรกิจโรงกลั่นเป็นไปตามกลไกตลาดเสรี ไม่มีการควบคุมค่าการกลั่น ซึ่งก็มีทั้งช่วงที่โรงกลั่นได้กำไรและขาดทุน

หากรัฐกำหนดให้โรงกลั่นทุกแห่งช่วยเหลือภาครัฐ ทุกๆ 1 บาทต่อลิตร เป็นเวลา 1 เดือน จะทำให้กำไรของโรงกลั่นแต่ละแห่งหายไป 1.3 พันล้านบาท, 691.6 ล้านบาท, 1 พันล้านบาท, 572.4 ล้านบาท, 830 ล้านบาท และ 834.7 ล้านบาท สำหรับโรงกลั่น TOP, PTTGC, IRPC, BCP, ESSO และ SPRC ตามลำดับ

กดดันราคาหุ้นกลุ่มโรงกลั่นทั้งกลุ่ม รวมถึงโรงแยกก๊าซฯของ PTT ที่ได้รับผลกระทบด้วย!!

อินเด็กซ์ 51


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ