เงินเฟ้อสูงกดดันหุ้น!!

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 6 มิ.ย.65 ปิดที่ 1,646.08 จุด ลดลง 1.59 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 58,372.21 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 1,190.69 ล้านบาท

หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด BANPU ปิด 12.90 บาท บวก 0.30 บาท, KTB ปิด 15.70 บาท บวก 0.70 บาท, PTTEP ปิด 168.50 บาท บวก 2 บาท, PTT ปิด 38.25 บาท บวก 0.25 บาท, KBANK ปิด 145.50 บาท ลบ 1 บาท

หุ้นไทยปรับตัวลงเล็กน้อย ขณะที่ตัวเลขเงินเฟ้อ เดือน พ.ค.ของไทยออกมาสูงกว่าที่ตลาดคาดไว้มาก ทำให้นักลงทุนกังวลและขายหุ้นออกมา ก่อนมีแรงซื้อกลับเข้ามาในช่วงท้ายตลาดช่วยพยุงดัชนี

บล.ทิสโก้ ออกบทวิเคราะห์ระบุว่า ตัวเลขเงินเฟ้อไทยเดือน พ.ค. ที่เร่งตัวสูงสุดในรอบ 13 ปี โดยขยายตัว +7.1% YoY และ +1.4% MoM สูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ +5.9% YoY และ +0.6% MoM ตามลำดับ

ทิสโก้ ประเมินว่า การประชุม กนง. 8 มิ.ย.นี้ ยังคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.50% แต่คาดว่าจะแสดงความกังวลมากขึ้นต่อแนวโน้มเงินเฟ้อที่มีความเสี่ยงสูง และอาจกดดันให้ กนง.ปรับดอกเบี้ยเร็วขึ้นเป็นช่วงปลายปีนี้

โดยแนะนำให้ติดตาม 2 ปัจจัย ที่อาจเป็นตัวกระตุ้นเงินเฟ้อให้สูงขึ้นอีกในอนาคต คือการทยอยขึ้นราคาน้ำมันดีเซลรอบใหม่ และโอกาสการขึ้นค่าแรงงานขั้นต่ำเป็น 400-425 บาท

ทั้งนี้ ชอบหุ้นกลุ่ม AGRI & FOOD โดยเฉพาะหุ้นส่งออกอาหาร เพราะได้ประโยชน์จากราคาอาหารที่สูงขึ้นและเงินบาทอ่อนค่า แนะนำลงทุนหุ้น CPF (ราคาเป้าหมาย 32 บาท), TFG (5.75 บาท), TU (26 บาท), TWPC (8.25 บาท) สำหรับหุ้นที่อยู่นอกการวิเคราะห์ของทิสโก้ที่คาดจะได้ประโยชน์เช่นกัน เช่น ASIAN, CFRESH

นอกจากนี้ เรายังชอบหุ้นที่เป็น Defensive Value ที่คาดว่าจะสามารถต่อสู้ภาวะเงินเฟ้อได้ ADVANC, BDMS, DCC, EGCO

ขณะที่นักวิเคราะห์ บล.โนมูระ พัฒนสิน ประเมิน กนง.จะคงอัตราดอกเบี้ยในวันที่ 8 มิ.ย.นี้ หากผิดจากที่ตลาดคาด หรือมีการปรับขึ้นดอกเบี้ย จะส่งผลให้ตลาดหุ้นปรับลง หรือเกิดความผันผวนระยะสั้น เพราะทำให้ต้นทุนการเงินเพิ่มขึ้น ด้าน บล.พาย ชี้ว่า หาก กนง. ปรับขึ้นดอกเบี้ยมาที่ 0.75% แนะทยอยลดน้ำหนักลงทุน เนื่องจากช่วงถัดไปมีความเสี่ยงจากหลายปัจจัย!!

อินเด็กซ์ 51