หุ้น ADVANC–CPN–CPALL!!

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 14 ธ.ค.64 ปิดที่ 1,630.64 จุด เพิ่มขึ้น 4.81 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 69,162.70 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 3,742.66 ล้านบาท

หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด KBANK ปิด 139 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง, JAS ปิด 3.70 บาท บวก 0.22 บาท, IVL ปิด 42.75 บาท บวก 2.25 บาท, SCB ปิด 125 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง, DELTA ปิด 440 บาท บวก 16 บาท

หุ้นไทยช่วงเช้าปรับลงไป 10 จุด และรีบาวน์กลับมาปิดในแดนบวกได้หลังหุ้นยุโรปเปิดบวก และราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้น ขณะที่หุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปิดลบ กังวลเชื้อโควิดสายพันธุ์โอมิครอน หลังมีผู้เสียชีวิต 1 รายในอังกฤษ และผู้ติดเชื้อรุนแรงอีก 11 ราย ขณะที่ในจีนพบผู้ติดเชื้อโอมิครอน 1 ราย

บล.เอเซียพลัส ระบุความกังวลเชื้อโควิดสายพันธุ์โอมิครอนกลับมาอีกครั้ง หลังตรวจพบผู้ติดเชื้อ Omicron เพิ่มขึ้นเป็น 70 ประเทศทั่วโลก โดยประเทศล่าสุดที่พบคือจีน ส่วนในอังกฤษพบผู้เสียชีวิตเป็นรายแรกของโลก รวมถึงยังมีผู้ติดเชื้อ Omicron อีกกว่า 10 ราย ที่กำลังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล ขณะที่ในยุโรปจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นสูงในหลายๆประเทศ

สถานการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างแรงกดดันต่อตลาดการเงินโลกอีกครั้ง โดยเฉพาะกรณีผู้เสียชีวิตในอังกฤษ เพราะสวนทางกับมุมมองก่อนหน้าที่ว่า สายพันธุ์ Omicron ไม่ก่อให้เกิดอาการป่วยที่รุนแรงมากนัก ส่งผลให้ Fund Flow ไหลออกจากสินทรัพย์เสี่ยงเข้าไปยังสินทรัพย์ปลอดภัย เห็นได้จากหุ้นยุโรปและสหรัฐฯปรับลง Bond Yield ของสหรัฐฯกลับมาลดลง, Dollar Index กลับมาแข็งค่า 0.3%

หากพิจารณาในส่วนตลาดหุ้น พบว่า หุ้นที่ถูกขายทำกำไรเป็นหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเมืองในต่างประเทศ แต่หุ้นวัคซีนกลับมาฟื้นตัว เช่น Moderna, Pfizer, J&J เป็นต้น

การตอบสนองของตลาดหุ้นโลกต่อความกังวล Omicron ส่งผลเชิงลบต่อหุ้นไทยระยะสั้น ในหุ้นกลุ่มเปิดเมือง แต่เอเซียพลัสเชื่อว่า Downside ของ SET Index จะจำกัด ขณะที่คาดหวังเม็ดเงิน

จากกองทุนประหยัดภาษีอย่าง SSF และ RMF มาช่วยพยุง ที่เดือน ธ.ค.ยอดซื้อกองทุน SSF และ RMF ประเภทหุ้นไทยมีสัดส่วนที่สูงสุดเมื่อเทียบกับเดือนอื่นๆ 8.8 พันล้านบาท ขณะที่ค่าเงินบาทที่มีโอกาสแข็งค่าช่วงสั้นเป็นปัจจัยหนุนนำ Flow เข้าสู่ตลาดหุ้นได้

แนะกลยุทธ์เน้นหุ้นใหญ่ที่กำไรมั่นคง ฟื้นตัวตามเศรษฐกิจอย่าง ADVANC–CPN–CPALL!!

อินเด็กซ์ 51