ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 15 ต.ค.64 ปิดที่ 1,638.34 จุด ลดลง 2.63 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 84,751.66 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 3,400.29 ล้านบาท
หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด KBANK ปิด 142.50 บาท บวก 2 บาท, BANPU ปิด 13.10 บาท ลบ 0.30 บาท, U ปิด 1.82 บาท ลบ 0.13 บาท, PTT ปิด 39.25 บาท ลบ 0.25 บาท, IRPC ปิด 4.64 บาท ลบ 0.04 บาท
บล.ยูโอบีเคย์เฮียน มองทิศทางตลาดสัปดาห์หน้ามีโอกาสปรับตัวขึ้นได้โดยมองกรอบดัชนี 1,630-1,650 จุด แม้ผลการดำเนินงานแบงก์พาณิชย์ไตรมาส 3/64 ที่จะประกาศออกมามีแนวโน้มปรับตัวลดลงจากไตรมาส 2/64 แรต่เนื่องจากราคาหุ้นแบงก์ตอบสนองข่าวไปก่อนแล้ว และอยู่ในราคาไม่แพง ทั้งนี้มองว่า ผลประกอบกาแบงก์ใหญ่น่าจะออกมาดีกว่ากลุ่มแบงก์กลาง-เล็ก
ขณะที่แนวโน้มผลประกอบการหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีโดยรวม ได้ปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันที่อยู่ระดับสูง และการเปิดเมืองและการผ่อนคลายกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่มากขึ้น จะเป็นปัจจัยบวกให้นักลงทุนมองข้ามผลการดำเนินงานไตรมาส 3/64 ของหุ้นบางกลุ่มบางตัวที่ลดลงโดยมองข้ามช็อตไปเก็งผลการดำเนินงานไตรมาส 4/64 แทน
ส่วนปัจจัยต่างประเทศ มีประเด็นที่ต้องติดตาม คือ การขยายเพดานหนี้ของสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการได้โดยไม่มีปัญหา
แนะกลยุทธ์ลงทุนให้นักลงทุนเลือกเก็งกำไรหุ้นเปิดเมืองที่เป็นหุ้นอิงกับการฟื้นตัวเศรษฐกิจประเทศ เช่น ห้างสรรพสินค้า CPN, รถไฟฟ้ารับการเปิดเมืองไปทำงานตามปกติ BEM, ร้านอาหาร M และโรงภาพยนตร์ MAJOR
รวมทั้ง แนะเก็งกำไรหุ้นรายตัวที่คาดว่าผลการดำเนินงานจะออกมาดี หรือหุ้นที่ได้รับผลกระทบจากล็อกดาวน์แต่จะเริ่มดีขึ้นในไตรมาส 4/64 เช่น FSMART และ SFT
ขณะที่ บล.เคทีบีเอสที แนะกลยุทธ์ลงทุนช่วงนี้ เล่นเก็งกำไรระยะสั้นๆในกรอบแคบ ไม่ใช่จังหวะเข้าสะสมหุ้น เพราะยังไม่เห็นเม็ดเงินใหม่เข้ามาในตลาด ขณะที่แนะให้ขายทำกำไรหุ้นเป้าหมายที่ราคาขึ้นไปเร็วและแรง เพื่อกลับมารอซื้อคืนในราคาที่ถูกกว่า!!
อินเด็กซ์ 51