ทองจะขึ้นอีกไหม เช็กแนวโน้มราคาทองคำ หากหลุด 25,700 บาทมีโอกาสไปต่อ

Investment

Capital Market

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

ทองจะขึ้นอีกไหม เช็กแนวโน้มราคาทองคำ หากหลุด 25,700 บาทมีโอกาสไปต่อ

Date Time: 19 มี.ค. 2564 15:32 น.

Video

GoPro หายไปไหน? แบรนด์กล้องสุดล้ำ จากสูงสุดสู่สามัญในพริบตาเดียว | Digital Frontiers EP.35

Summary

  • YLG ประเมินทิศทางราคาทองคำ หลังเฟดคงดอกเบี้ย มองเป็นการรีบาวด์ระยะสั้น แม้ราคาทองผ่าน 25,400 บาทได้ แต่ยังติดแนวต้านสำคัญที่ 25,700 บาท

Latest


YLG ประเมินทิศทางราคาทองคำ หลังเฟดคงดอกเบี้ย มองเป็นการรีบาวด์ระยะสั้น แม้ราคาทองผ่าน 25,400 บาทได้ แต่ยังติดแนวต้านสำคัญที่ 25,700 บาท หากไม่เบรกแนวต้าน มีสิทธิ์ปรับลงเข้าใกล้ 24,900 บาท

เมื่อวันที่ 19 มี.ค. 64 นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด หรือ YLG กล่าวว่า การที่ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นในรอบ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา แม้จะเป็นสัญญาณที่ดี แต่ก็เป็นการเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ มาตั้งแต่ต้นสัปดาห์ จึงเป็นการรีบาวด์ที่ยังไม่สามารถบ่งบอกได้ว่า ราคาทองคำจะกลับมาเป็นขาขึ้น

สำหรับทิศทางตอนนี้เป็นไปได้ทั้งการไปต่อ หรือการปรับลดลง แม้หลังการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด ที่คงดอกเบี้ยนโยบายไว้ ส่งผลให้ราคาทองคำสามารถผ่านระดับสูงสุดของสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 1,740 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ไปได้ หรือประมาณ 25,400 บาทต่อบาททองคำ

โดยช่วงสั้นๆ อาจจะมีการปรับขึ้นไปถึง 1,760 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือประมาณ 25,700 บาทต่อบาททองคำ แต่หากไม่สามารถผ่านได้ ยังมีโอกาสที่จะราคาปรับลดลงมาแถวๆ 1,720-1,700 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือประมาณ 24,900 บาทต่อบาททองคำอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม หากราคาทองคำสามารถทะลุ 1,760 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ทิศทางในระยะสั้นจะสดใสมากขึ้น โดยมีโอกาสปรับขึ้นไปต่อที่ 1,800 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือประมาณ 26,300 บาทต่อบาททองคำ

สำหรับทิศทางในระยะกลางของทองคำยังเป็นลักษณะการค่อยปรับตัวลดลง หรือ Sideway Down จึงอาจจะมีแรงเทขายทำกำไรออกมา ทำให้ทองคำมีการปรับฐานอีกรอบ ดังนั้นหากมีการดีดตัวขึ้นไปแถวๆ 1,760 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ สามารถใช้เป็นจังหวะขายทำกำไรได้ แต่หากผ่านได้อาจถือต่อ ส่วนแนวรับมองที่ 1,720-1,700 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์

นางพวรรณ์ กล่าวอีกว่า สำหรับปัจจัยที่ยังมีผลกระทบต่อราคาทองคำในช่วงนี้ ได้แก่ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่กระทบต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ซึ่งจะส่งผลต่อราคาทองคำ เพราะหากเศรษฐกิจสหรัฐฯออกมาดีจะส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า และส่งผลลบต่อราคาทองคำ

นอกจากนี้ ปัจจัยการประชุมของเฟด ก็เป็นอีกประเด็นที่ต้องติดตาม แม้ว่าการประชุมในรอบเดือน มี.ค.ผ่านไปแล้ว และยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับต่ำตามคาด และจะยังไม่มีการปรับขึ้นดอกเบี้ยภายใน 1-2 ปีนี้ แต่การคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจที่เริ่มมีมุมมองดีขึ้นนั้นก็ถือเป็นปัจจัยกดดันทองในอนาคตได้

ล่าสุด YLG ได้เปิดตัวแอปพลิเคชัน YLG Online สำหรับการซื้อขายทองคำแบบเรียลไทม์ ตลอด 24 ชั่วโมง โดยปัจจุบันให้บริการรองรับระบบ iOS และจะขยายการให้บริการครอบคลุมระบบ android ในเร็วๆ นี้


*คาดการณ์ที่ค่าเงินบาท 30.83 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ