มุมมองเมย์แบงก์ กิมเอ็ง!!

Investment

Capital Market

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

มุมมองเมย์แบงก์ กิมเอ็ง!!

Date Time: 19 มี.ค. 2564 05:01 น.

Summary

  • ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 18 มี.ค.64 ปิดที่ 1,568.82 จุด เพิ่มขึ้น 2.06 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 81,007.58 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 735.91 ล้านบาท

Latest

ผ่อนเกณฑ์ “ซื้อหุ้นคืน” เริ่ม พ.ค.นี้ ตลท. ปลุกตลาด ชู "TISA" ส่งเสริมออมหุ้นระยะยาว


ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 18 มี.ค.64 ปิดที่ 1,568.82 จุด เพิ่มขึ้น 2.06 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 81,007.58 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 735.91 ล้านบาท

มีมุมมองน่าสนใจจาก “ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์” นักกลยุทธ์เศรษฐศาสตร์มหภาค บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุว่า ช่วงที่ผ่านมาเศรษฐกิจสหรัฐฯมีสัญญาณการฟื้นตัวเร็วกว่าคาดทั้งภาคการผลิต การบริโภค หนุนให้ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Bond Yield) อายุ 10 ปี เร่งตัวจากระดับต่ำกว่า 1% ช่วงต้นปี ทำจุดสูงสุดเหนือ 1.6% ส่งผลกระทบให้เกิดแรงเทขายตลาดพันธบัตร Asean ทำให้ผลตอบแทนพันธบัตรพุ่งขึ้นเช่นกัน

สิ่งที่เกิดขึ้นเริ่มสร้างความกังวลต่อโอกาสการถอดถอนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ (ลดขนาด QE หรือ QE Tapering) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งข้อมูล Bloomberg Consensus ให้น้ำหนักว่าจะเกิดขึ้น Q1/65 จากนั้นจะตามด้วยการทยอยปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายหลังปี 66 เป็นต้นไป หากเทียบกับกรอบเวลาการถอน QE 3 ช่วงปี 56 จะพบว่า ครั้งนั้นประธานเฟดส่งสัญญาณล่วงหน้าก่อนการทยอยลดขนาดราว 6 เดือน

หากประเมินผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อตลาดหุ้นไทย พบว่า ณ วันที่เฟดเริ่มส่งสัญญาณลดขนาดการทำ QE 3 เป็นวันที่หุ้นไทยทำจุดสูงสุดของรอบ ดัชนีแตะ 1,650 จุด และเริ่มเข้าสู่รอบขาลง จากนั้นจนกระทั่งต้นปี 57 หลังเฟดเริ่มลดการซื้อพันธบัตรจริง ดัชนีจบรอบขาลง ทำจุดต่ำสุดที่ 1,205 จุด และเริ่มฟื้นตัว สะท้อนภาพตลาดหุ้นไทยที่เล่นบน “ความคาดหวัง” ทั้งด้านบวกและด้านลบ

และ “เมื่อความจริงปรากฏ” (Buy on Fact) ซึ่งสามารถนำมาเป็นจุดกำหนดกลยุทธ์ หากเกิดการส่งสัญญาณปรับลดขนาด QE รอบนี้ได้ นั่นคือ ทยอยลดพอร์ตการลงทุน-ล็อกกำไร เมื่อเฟดส่งสัญญาณ และรอจังหวะซื้อกลับหลังจากนั้น
ทั้งนี้ QE Tapering หากเกิดขึ้นจริง จะแตกต่างเมื่อเทียบกับ QE Tapering ปี 56 เช่น Fund Flow ไม่ได้ไหลเข้าสู่หุ้นไทย

รวมถึงภูมิภาค Asean มากเท่ากับการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบที่ผ่านมา, ดุลบัญชีเดินสะพัดไทยแข็งแกร่งกว่าครั้งที่ผ่านมา และอัตราเงินเฟ้อยังไม่ได้เร่งตัวสูงมากเหมือนครั้งที่ผ่านมา

จากเหตุผลนี้ โดยเฉพาะ Fund flow ที่ไหลออกจากหุ้นไทยช่วงสหรัฐฯกระตุ้นเศรษฐกิจ เป็นปัจจัยจำกัดการไหลออกของ Fund flow หลังถอดถอน QE Tapering และทำให้หุ้นไทยรอบนี้แม้เลี่ยงยากที่จะโดนผลกระทบเชิงลบ แต่ไม่รุนแรงเหมือน QE Tapering ครั้งก่อน!!

อินเด็กซ์ 51


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ