ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 17 มี.ค.64 ปิดที่ 1,566.76 จุด บวก2.73จุดมีมูลค่าซื้อขาย 92,178.77 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 1,446.13ล้านบาท
บล.เอเซียพลัสไขความลับกลยุทธ์ทำกำไร แบบฉบับ ASPS ระบุว่า พอร์ตจำลอง ฝ่ายวิจัยเอเซียพลัสมีการคัดกรองหุ้นไม่เกิน 10บริษัทในพอร์ต พร้อมกำหนดจุดซื้อ-จุดขาย รวมถึงลดความเสี่ยงด้วยจุดล็อกกำไร ถือเป็นหนึ่งในไกด์ไลน์ สำหรับนักลงทุนที่สามารถปฏิบัติตามได้ง่าย
ซึ่งฝ่ายวิจัยมีการจัดทำพอร์ตจำลองอย่างจริงจังตลอด 6 ปี (2558-63) ชนะ SET Index ทุกปี โดยมีผลตอบแทนรวมสูงถึง 204% (ยังไม่ได้หักค่าธรรมเนียม) ขณะที่ SET Index ให้ผลตอบแทน -3.21%ในช่วงเวลาเดียวกัน
ปี 64 ผ่านมาได้ 2 เดือนครึ่ง พอร์ตจำลองของ ASPSทำผลตอบแทนได้สูงถึง 14.2% ytd ชนะ SET Index ที่ให้ผลตอบแทน7.8%ytd และเป็นการเอาชนะได้ทุกเดือน
โดยมีวิธีการลงทุน ดังนี้ 1.ธีมหลัก คาดเห็นการ Search foryield เข้ามาในสินทรัพย์เสี่ยง โดยเฉพาะหุ้นวัฏจักรที่ดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ ขณะที่เศรษฐกิจและกำไรบริษัทจดทะเบียนอยู่ในภาวะฟื้นตัวชัดเจน ถือเป็นตัวแปรสำคัญผลักดันสภาพคล่องส่วนเกินในระบบ ให้เข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่ามากขึ้น
กลุ่มหุ้นที่ฝ่ายวิจัยเน้นลงทุนหลักๆคือ หุ้นวัฏจักร เนื่องจากหุ้นกลุ่มนี้ ปรับฐานลงมาลึกจากประเด็น COVID-19 จนกองทุนทั้งไทยและ
ต่างประเทศอยู่ในภาวะ under-owned พอมีประเด็นความคืบหน้าของวัคซีนก็มีโอกาสพลิกฟื้นขึ้นมาเร็วได้เช่นกัน
2.ธีมประจำเดือนเน้นลงทุนตามบทวิเคราะห์ Invest+เสริมหรือปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ให้ทันเหตุการณ์ โดยเดือน มี.ค.64 (ครึ่งหลัง)ยังคงแนะนำหุ้นเปิดเมือง (CENTEL, AMATA) รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วยลดภาระค่าครองชีพลง (SPVI) เนื่องจากได้รับความเชื่อมั่นจากการฉีดวัคซีนทั้ง 2 ชนิด
รวมถึงตลาดฯอยู่ในช่วงทบทวนเกณฑ์การปรับหุ้นเข้าออกดัชนี SET50 และ SET100 ด้วยวิธี Free Float Adjusted Market Cap. ทำให้หุ้นที่มี Free Float สูง และพื้นฐานแข็งแกร่งจะได้รับปัจจัยบวก อาทิ BBL, KBANK, SCC และ PTT เป็นต้น!!
อินเด็กซ์ 51