
จับตาผลกระทบต่อเนื่องของสถานการณ์การชุมนุมทางการเมืองวันที่ 14 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งกดดันบรรยากาศการลงทุน แต่อย่างไรก็ตาม ในส่วนของรัฐบาลก็ระดมทุกสรรพกำลังในการออกมาตรการดูแลเศรษฐกิจ เพิ่มกำลังซื้อกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชนทุกกลุ่ม
ทั้งนี้ เอเซียพลัสประเมินการชุมนุมรอบนี้ เทียบกับรอบก่อน วันที่ 19 ก.ย.63 ที่มีการสร้างกระแสการชุมนุมคึกคัก รอบนี้บรรยากาศแวดล้อมจึงดูค่อนข้างจะเงียบสงบกว่า ส่วนหนึ่งเพราะเป็นวันทำการปกติ ทำให้ Sentiment ที่ส่งต่อมายัง SET Index อาจผ่อนคลายมากกว่ารอบที่ผ่านมา แต่ยังคงต้องติดตามดูพัฒนาการว่า การชุมนุมจะยืดเยื้อ หรือมีความรุนแรงหรือไม่ รวมทั้งท่าทีของกลุ่มผู้ชุมนุม และเจ้าหน้าที่รัฐ
สำหรับปัจจัยต่างประเทศ มีปัจจัยสำคัญ คือ ทำเนียบขาวเสนอ ปรับลดลงวงเงิน Package กระตุ้นเศรษฐกิจเฟส 2 จากเดิมวงเงิน 2.2 ล้านล้านเหรียญฯ และประธานธิบดีทรัมป์ปรากฏตัวต่อสื่อและเผยว่าอาการดีขึ้น ส่งผลทำให้ Dollar อ่อนค่าแรง ทำให้ค่าเงินบาท/ ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น เป็น Sentiment เชิงลบต่อหุ้นส่งออกทั้งกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และส่งออกอาหาร แต่บวกต่อกลุ่มโรงไฟฟ้า
อีกทางหนึ่งทุกครั้งที่ Dollar อ่อนค่าจะเป็นปัจจัยหนุนราคาสินค้าโภคภัณฑ์ Commodity ทั้ง Hard Commodity และ Soft Commodity
ส่วนราคาน้ำมันดิบ ระยะสั้นราคาน้ำมันดิบ Brent ถูก Take Profit ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ราว 1.4% ถูกกดดันจากฝั่ง Supply ที่กลับมาอีกครั้งทั้งจากพายุ Delta เริ่มอ่อนตัวเป็นพายุโซนร้อน, แรงงาน Norway ยุติการประท้วง ทำให้การผลิตราว 3.3 แสนบาร์เรล/วัน หรือ ราว 8% ของกำลังการผลิตของ Norway กลับมา
ทำให้ราคาน้ำมันระยะสั้นเผชิญ Sentiment เชิงลบ แต่คำแนะนำในระยะกลาง-ยาว ให้หาจังหวะทยอยสะสม PTT ส่วน PTTEP แนะเพียง trading ช่วงสั้นตามทิศทางราคาน้ำมันรายวัน เพราะยังมีแรงกดดันผลประกอบการที่น่าจะผ่านจุดสูงสุดของปีไปแล้วใน 1Q63
ขณะที่ราคาถ่านหินเพิ่มขึ้นมีปัจจัยหนุนจาก Supply ในจีนที่ลดลงจากการเริ่มหยุดซ่อมบำรุงทางรถไฟขนส่งถ่านหินสายหลักตั้งแต่วันที่ 7–31 ต.ค. ส่วน Demand ถ่านหินเพื่อผลิตไฟฟ้ากลับสูงขึ้นเมื่อเริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูหนาวคำแนะนำ trading ช่วงสั้นหุ้น BANPU และ LANNA!!
อินเด็กซ์ 51