วายแอลจี เพิ่มทางเลือกการออมในยุคดอกเบี้ยขาลง หลัง กนง.ลดดอกเบี้ยนโยบายเหลือ 1% เปิดโปรแกรมตอบโจทย์คนทุกกลุ่ม พร้อมมองปี 63 ตลาดทองคำยังสดใส เหตุไวรัสโคโรนาซ้ำเติมเศรษฐกิจ กดดอกเบี้ยทั่วโลกต่ำ-ปัจจัยความขัดแย้งในตะวันออกกลางยังไม่แน่นอน
เมื่อวันที่ 12 ก.พ.63 นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) เปิดเผยว่า จากการที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงเหลือ 1% เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจในปัจจุบันได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบหลายด้าน ทั้งผลกระทบจากไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ ที่กระทบด้านการท่องเที่ยว ปัญหาภัยแล้ง รวมถึงความล่าช้าของ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 63 ซึ่งการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายนี้ ได้ส่งผลให้ธนาคารพาณิชย์หลายแห่งประกาศลดอัตราดอกเบี้ย MRR ลงในทันที แม้จะเป็นผลดีในการลดภาระของผู้กู้และต่อภาพรวมเศรษฐกิจ แต่ธนาคารบางแห่งเริ่มออกมาปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากบางประเภทแล้วเช่นกัน ซึ่งทำให้ผู้ออมได้รับผลตอบแทนลดลง เนื่องจากผลสำรวจของแมนพาวเวอร์กรุ๊ป บ่งชี้ว่าคนไทยส่วนใหญ่ออมผ่านเงินฝากประจำมากที่สุด 50% ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้สูงที่ผู้ฝากเงินจะมีพฤติกรรมแสวงหาผลตอบแทนที่สูง (Search for Yield) ด้วยการนำไปลงทุนในรูปแบบต่างๆ นอกเหนือจากการฝากเงิน เช่น การนำเงินไปลงทุนในหุ้นพื้นฐานที่มีการจ่ายปันผลอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยสูง เช่น ทองคำ เป็นต้น
นางพวรรณ์ กล่าวต่อว่า ในปี 63 เป็นปีที่ราคาทองคำทะยานขึ้นนับตั้งแต่ต้นปี เนื่องจากได้รับปัจจัยบวกหลายด้าน ทั้งอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกที่อยู่ในระดับต่ำ รวมถึงความขัดแย้งในสหรัฐฯและตะวันออกกลาง และการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ล้วนแล้วแต่เป็นแรงกระตุ้นให้นักลงทุนหันเข้ามาถือครองทองคำมากขึ้น นอกจากนี้การอ่อนค่าของค่าเงินบาท ยังเป็นอีกปัจจัยที่หนุนให้ราคาทองคำในประเทศปรับตัวสูงขึ้น มากกว่าราคาทองคำในตลาดโลกอีกด้วย
นางพวรรณ์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ดีการลงทุนในทองคำโดยตรงนั้น อาจมีข้อจำกัดอยู่บ้าง โดยเฉพาะสำหรับนักลงทุนที่เริ่มลงทุน หรือกลุ่มเยาวชน นักเรียน นักศึกษาที่สนใจออมเงินผ่านทองคำ เพราะทองคำมีราคาค่อนข้างสูง ขณะที่ผู้ที่จะลงทุนได้นั้นต้องมีเงินลงทุนพอสมควร ซึ่งพฤติกรรมการใช้เงินและการออมเงินของกลุ่มคนรุ่นใหม่ยุค 4.0 พบว่า ส่วนใหญ่ไม่ได้กำหนดจำนวนแน่นอน ดังนั้นวายแอลจีจึงพัฒนารูปแบบการลงทุนทองคำที่มีความยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น โดยนักลงทุนสามารถออกแบบ การลงทุนทองให้สอดคล้องกับพฤติกรรมการลงทุนทองคำของตนเองได้ ด้วยการพัฒนาโปรแกรมออมทอง ที่ผู้ออมสามารถเลือกเองได้ว่าในแต่ละเดือนจะเข้ามาออมกี่ครั้ง และจากการก้าวหน้าของยุคดิจิทัล ทำให้ผู้ออมสามารถกำหนดต้นทุนที่ต้องการเข้ามาออมในแต่ละช่วงเวลาได้ ทางวายแอลจีเองก็ได้มีบริการส่งทองคำฟรีถึงบ้าน สำหรับผู้ที่ต้องการขายทองคำเมื่อออมได้ครบจำนวนแล้ว จึงทำให้เกิดความสะดวกสบาย ผู้ออมไม่จำเป็นต้องเดินทางมาที่ร้านทองเพื่อทำการซื้อหรือขายเช่นในอดีต