เงาหุ้น : มุมมองทิสโก้!!

Investment

Capital Market

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

เงาหุ้น : มุมมองทิสโก้!!

Date Time: 14 ม.ค. 2563 05:01 น.

Summary

  • ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 13 ม.ค.63 ปิดที่ 1,586.16 จุด บวก 5.53 จุดมีมูลค่าซื้อขาย 65,020.40 ล้านบาท กองทุนในประเทศขายสุทธิ 1,240.58 ล้านบาท ตามด้วยต่างชาติขายสุทธิ 227.45 ล้านบาท

Latest

หุ้นไทยยิ่งร่วง ผู้บริหารยิ่งซื้อ บิ๊กธุรกิจควักเงินส่วนตัวซื้อหุ้นหวังสร้างความเชื่อมั่น

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 13 ม.ค.63 ปิดที่ 1,586.16 จุด บวก 5.53 จุดมีมูลค่าซื้อขาย 65,020.40 ล้านบาท กองทุนในประเทศขายสุทธิ 1,240.58 ล้านบาท ตามด้วยต่างชาติขายสุทธิ 227.45 ล้านบาท

หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด GULF ปิด 193.50 บาท บวก 16.50 บาท, GPSC 95.75 บาท บวก 2 บาท, BAM 23.20 บาท บวก 0.50 บาท, CPALL ปิด 71.75 บาท ลบ 2.50 บาท, ADVANC ปิด 213 บาท บวก 1 บาท

ตลาดหุ้นไทยได้ปัจจัยบวกหนุนจากสภาฯ ผ่านร่างงบประมาณปี 2020 ฉลุย!! เป็นผลดีต่อบรรยากาศ การลงทุนระยะสั้น

บล.ทิสโก้ ออกบทวิเคราะห์น่าสนใจ ระบุว่า หลังจากที่มีการพิจารณา 4 วัน 3 คืน (8-10 ม.ค.) สภาผู้แทนราษฎรไทยได้เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี FY2020 วาระ 2 และ 3 วงเงิน 3.2 ล้านล้านบาท ด้วยคะแนนเสียง 253 เสียง ส่งให้วุฒิสภาพิจารณาต่อในวันที่ 20 ม.ค. ก่อนให้นายกฯ นำขึ้นทูลเกล้าฯ ในวันที่ 27 ม.ค. และคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ภายในช่วงครึ่งแรกของเดือน ก.พ.

คาดว่าจะมีเม็ดเงินจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ (ไม่รวมสินเชื่อ) เข้าสู่ระบบในปี 2020F เกือบ 1.2 แสนล้านบาท ซึ่งจะคิดเป็น 0.7% ของ GDP น่าจะเป็นผลดีต่อบรรยากาศการลงทุนโดยรวมของตลาดหุ้นไทยในระยะสั้น

ดังนั้น จึงต้องเน้นเฉพาะหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคภายในประเทศ แต่หุ้นที่เกี่ยวข้องกับการลงทุน เช่น กลุ่มรับเหมาก่อสร้างและนิคมอุตสาหกรรม แม้จะได้ประโยชน์ในเชิงของกระแสข่าวจากกระบวนการพิจารณางบประมาณมีความคืบหน้า

แต่ทิสโก้มองว่ามีความเป็นไปได้สูงที่หน่วยงานภาครัฐจะไม่สามารถเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณที่ค้างท่อได้ทัน เนื่องจากระยะเวลาเบิกจ่ายงบประมาณเหลือไม่ถึง 8 เดือน

ทำให้มองว่าเม็ดเงินจากงบลงทุนภาครัฐที่จะเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจในปี 2020F จะต่ำกว่าปีอื่นๆอย่างชัดเจน ทำให้แนวโน้มการลงทุนภาคเอกชนชะลอตัวตามไปด้วย ท่ามกลางความไม่แน่นอนของสงครามการค้าและการเติบโตของเศรษฐกิจโลก ประกอบกับกลุ่มรับเหมาก่อสร้างและกลุ่มนิคมฯ ยังเผชิญกับแรงกดดันจากการแข่งขันด้านราคาจากผู้รับเหมาต่างประเทศ และเงินบาทที่แข็งค่าต่อเนื่อง

สรุป หุ้นที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคและเศรษฐกิจที่น่าลงทุนสำหรับปี 2020 คือ CPALL (เป้าพื้นฐาน 95 บาท), BJC (61 บาท), BBL (191 บาท), KKP (84 บาท), SCB (140 บาท), AEONTS (252 บาท), AP (8.6 บาท), LH (12.4 บาท), SPALI (22.6 บาท), PLANB (11 บาท), MAJOR (30 บาท) และ BDMS (29 บาท).

อินเด็กซ์ 51


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ