นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC ซึ่งเป็นอาณาจักรอสังหาริมทรัพย์ของกลุ่มนายเจริญ สิริวัฒนภักดี เปิดเผยว่า
บริษัทได้รับอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) จำนวน 8,000 ล้านหุ้น แบ่งเป็นหุ้นเพิ่มทุนไม่เกิน 6,957 ล้านหุ้น ไม่เกิน 22.47% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมด และอาจมีการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน จำนวนไม่เกิน 1,043 ล้านหุ้น โดยนำเงินที่ได้รับจากการจัดสรรหุ้นส่วนเกินนี้ไปใช้ในกลไกการรักษาระดับราคาหุ้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนเกี่ยวกับเสถียรภาพของราคาหุ้นในช่วง 30 วันแรกหลังเข้าจดทะเบียนซื้อขาย
ทั้งนี้บริษัทได้กำหนดราคาเสนอขายที่หุ้นละราคา 6 บาท เปิดให้ซื้อผ่านบริษัทหลักทรัพย์ตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ ในวันที่ 25-27 ก.ย. 62 และผู้ลงทุนสถาบัน รวมถึงผู้ซื้อหุ้นเบื้องต้นในต่างประเทศ วันที่ 1 ต.ค.62 คาดจะได้รับเงินจากการระดมทุน 48,000 ล้านบาท และคาดว่าหุ้นจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้ในเดือน ต.ค.นี้ อย่างไรก็ตามขณะนี้มีนักลงทุนสถาบันชั้นนำทั้งในและในต่างประเทศ จำนวน 13 รายได้ตกลงจองซื้อหุ้นที่เสนอขายครั้งนี้ รวม 3,454 ล้านหุ้น หรือ 50% ของจำนวนหุ้นที่เสนอขาย ซึ่งหลังการเข้าตลาดฯ แล้ว AWC จะมีโครงการรวมทั้งสิ้น 27 โครงการ และภายใน 5 ปีข้างหน้าจะมีห้องพักโรงแรม 8,506 ห้องส่วนกลุ่มธุรกิจอสังหาฯเพื่อการค้า จะมีพื้นที่เช่าสุทธิรวม 415,481 ตารางเมตร (ตรม.) จากโครงการทั้งหมด 11 โครงการ พร้อมเป็นเจ้าของอาคารสำนักงานอีก 4 แห่ง
“บริษัทมีแผนพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ อย่างต่อเนื่อง โดยได้รับการสนับสนุนจากทีซีซี กรุ๊ป ที่จะช่วยสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต และ เพิ่มมูลค่าของเงินทุนในระยะยาว มีแผนจะเข้าลงทุนในกิจการเจ้าของทรัพย์สินรวมทั้งสิ้น 14 โครงการ ใช้เงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้เพื่อซื้อ และ พัฒนากิจการ”
ด้านนางสาววีณา เลิศนิมิตร กรรมการ บล.ไทยพาณิชย์ ที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า การระดมทุนของ AWC ครั้งนี้ เป็นการขายหุ้นไอพีโอที่มีมูลค่าใหญ่ที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งหลัง AWC เข้าซื้อขายในตลาด จะเป็นหุ้นที่มีมูลค่ามาร์เก็ตแคปใหญ่เกือบ 200,000 ล้านบาท จากปัจจุบันที่บริษัทมีสินทรัพย์ราว 115,000 ล้านบาท สำหรับการระดมทุนของ AWC ครั้งนี้ จะนำเงินไปซื้อกิจการ และปรับปรุงทรัพย์สินในกลุ่มธุรกิจโรงแรมและการบริการ 12 โครงการ มูลค่า 25,000 ล้านบาท ได้แก่ โรงแรม 4 แห่ง ที่เปิดบริการอยู่ และโรงแรมอีก 8 แห่ง อยู่ระหว่างพัฒนา ซึ่งจะเป็นโครงการใหม่ๆ ที่เข้ามาเพิ่มในพอร์ตของ AWC หลังระดมทุนขายไอพีโอ พร้อมชำระคืนเงินกู้ยืมให้ธนาคาร ทั้งนี้ AWC ทำธุรกิจพัฒนาและ บริหารโครงการอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำที่ เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดิน 90% แบ่งเป็น กลุ่มธุรกิจโรงแรมและการบริการ ซึ่ง AWC เป็นเจ้าของโรงแรมระดับ Midscale ขึ้นไปรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ส่วนกลุ่มธุรกิจอสังหาฯเพื่อการพาณิชย์ มีทั้งเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ คอมมูนิตี้ ช็อปปิ้งมอลล์และคอมมูนิตี้มาร์เก็ต ภายใต้แบรนด์เกทเวย์ พันธุ์ทิพย์ และตะวันนา นอกจากนี้ ยังเป็นเจ้าของอาคารสำนักงานใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ ได้แก่ อาคารเอ็มไพร์ ทาวเวอร์ เป็นต้น.