มุมมองทรีนีตี้!!

Investment

Capital Market

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

มุมมองทรีนีตี้!!

Date Time: 3 ก.ย. 2562 05:01 น.

Summary

  • ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 2 ก.ย.62 ปิดที่ 1,654.11 จุด ลบ 0.81 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 52,702.62 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 1,130.81 ล้านบาท

Latest

ถอดบทเรียน “เอ็มเค” ในวันที่ “ตี๋น้อย” กำไรแซงหน้า เร่งปรับกลยุทธ์ เพิ่มสาขา รุกบุฟเฟ่ต์


ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 2 ก.ย.62 ปิดที่ 1,654.11 จุด ลบ 0.81 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 52,702.62 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 1,130.81 ล้านบาท หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด GULF ปิด 158.50 บาท บวก 13.50 บาท, PTT ปิด 43.50 บาท ลบ 0.75 บาท, AOT ปิด 72.50 บาท บวก 0.50 บาท, EA ปิด 48 บาท บวก 0.75 บาท, CPALL ปิด 83.50 บาท ลบ 0.50 บาท

“ณัฐชาต เมฆมาสิน” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ ประเมินทิศทางตลาดหุ้นเดือน ก.ย. คาดว่าจะแกว่งตัวตามปัจจัยภายนอกให้กรอบแนวรับไว้ที่ 1,600 จุด และแนวรับสำคัญอยู่ที่ 1,570 จุด ซึ่งเป็นระดับที่ปลอดภัยในแง่ของ Valuation ในทางกลับกัน กรอบแนวต้านสำคัญอยู่ที่ 1,680-1,700 จุด ซึ่งเป็นระดับเทียบเท่า Forward PE กรณีดีสุดที่ 15 เท่า

ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามเดือนนี้ คือ 1.พัฒนาการของประเด็นสงครามการค้า หลังจีนและสหรัฐฯเริ่มต้นเก็บภาษีสินค้านำเข้าเพิ่มเติมบางส่วนแล้ววันที่ 1 ก.ย. ส่งผลกระทบต่อปริมาณการค้าขายสินค้าระหว่างกันในตลาดโลก แต่ในแง่ของตลาดทุนประเมินว่า เป็นสิ่งที่นักลงทุนรับรู้แล้ว แนะให้จับตาท่าทีของทั้ง 2 ฝ่ายเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการเจรจาการค้ารอบใหม่ รวมถึงท่าทีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ต่อผลการประชุม Fed ในช่วงกลางเดือนนี้

2.พัฒนาการของความชัน Yield curve ทั่วโลก โดยเฉพาะของสหรัฐฯและไทย

3.การประชุมธนาคารกลางสำคัญต่างๆ การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) วันที่ 17-18 ก.ย. และการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ)วันที่ 18-19 ก.ย. รวมถึงการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของไทยวันที่ 25 ก.ย. ล่าสุดตลาดคาดการณ์ว่าจะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับเดิม 1.5%

หากผลการประชุมของธนาคารกลางต่างๆเหล่านี้ออกมาสอดคล้องกับสิ่งที่ตลาดคาดการณ์ไว้ จะไม่มีผลกระทบต่อตลาดหุ้นมากนัก แต่หากผลที่ออกมาดีหรือแย่กว่าตลาดคาด ประเมินว่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตลาดผันผวนได้

ทั้งนี้ แนะนำนักลงทุนจัดสรรน้ำหนักการลงทุนหุ้นด้วยสูตร 80:20 ต่อไป โดยน้ำหนัก 80% จัดสรรไปยังหุ้นกลุ่ม Domestic (BJC, CPALL, ADVANC, INTUCH, BCH, BEM, RATCH, EASTW, VGI, S11, THANI, AMANAH, REIT & IFF) และน้ำหนักอีก 20% จัดสรรไปยังหุ้นกลุ่ม Cyclical (IVL, PTTEP)!!

อินเด็กซ์ 51


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ