การลงทุนในตลาดหุ้นไทยวันที่ 19 มิ.ย.ว่าดัชนีหุ้นไทยปรับตัวขึ้นแรงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงบ่ายโดยมีแรงเข้าไล่ซื้ออย่างหนาแน่นดันดัชนีทะยานขึ้นมาสูงสุดของวันที่ 1,711.89 จุด บวก 28.29 จุด
ผู้สื่อข่าวรายงานการลงทุนในตลาดหุ้นไทยวันที่ 19 มิ.ย.ว่าดัชนีหุ้นไทยปรับตัวขึ้นแรงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงบ่ายโดยมีแรงเข้าไล่ซื้ออย่างหนาแน่นดันดัชนีทะยานขึ้นมาสูงสุดของวันที่ 1,711.89 จุด บวก 28.29 จุด ก่อนมาปิดทำการที่ระดับ 1,705.98 จุด บวก 22.38 จุด ทำนิวไฮในรอบกว่า 8 เดือนนับจาก เดือน ต.ค.61 ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขายทะลัก 107,568.94 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,809.62 ล้านบาท กองทุนซื้อสุทธิ 9,348 ล้านบาท โบรกเกอร์ ซื้อสุทธิ 2,378.62 ล้านบาท รายย่อยขายสุทธิ 13,537.21 ล้านบาท เฉพาะหุ้น AOT บวกแรงดันดัชนีตลาดรวมขึ้นกว่า 8 จุด
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า มี 2 ข่าวใหญ่ที่ดันให้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นแรงคือ ดาร์กี้ ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ออกมาระบุว่า ECB จะเปิดช่องหรือโอกาสสำหรับการลดดอกเบี้ยนโยบายมากขึ้น หากเศรษฐกิจยุโรปไม่มีแนวโน้มที่ดีขึ้น ซึ่งถือเป็นประเด็นใหม่ ทำให้นักลงทุนให้ความน่าจะเป็นว่า ECB มีแนวโน้ม จะลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นเป็น 90% ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรทั่วโลกปรับลดลงทันที
นอกจากนี้ ตลาดยังรับข่าวบวกจาก ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัปม์ โฟสต์ทวิตเตอร์ว่าเขาได้คุยโทรศัพท์กับสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน และตกลงกันว่าเตรียมพบปะหารือเชิงลึกร่วมกัน ปลายเดือนนี้ ขณะที่ สี จิ้นผิง ยังได้ยืนยันผ่านสื่อจีนว่า เห็นด้วยกับการพบปะหารือกัน ถือเป็นข่าวใหม่ถึงการเจรจาการค้าระหว่าง 2 ประเทศที่มีความชัดเจนมากขึ้น 2 ประเด็นนี้เป็นประเด็นใหม่ในเชิงบวกที่ชัดเจนมากขึ้น ขณะที่ทรีนีตี้มีการยกระดับกรอบการซื้อขายของดัชนีหุ้นไทยขึ้นเป็น 1650-1750 จากกรอบเดิมที่ 1600-1700 จุด โดยเป็นเป้าหมายสำหรับไตรมาส 3 นี้ อย่างไรก็ตาม ยังมีความเสี่ยงหรือประเด็นที่ต้องติดตามคือผลการเจรจาของทั้ง 2 ฝ่ายในปลายเดือนนี้ว่าจะมีข้อตกลงที่ดีต่อกันหรือไม่.