"เจ้าสัวเจริญ" สั่งลุย จัดพอร์ตที่ดินโรงแรม AWC แต่งตัวเข้าตลาด

Investment

Capital Market

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

"เจ้าสัวเจริญ" สั่งลุย จัดพอร์ตที่ดินโรงแรม AWC แต่งตัวเข้าตลาด

Date Time: 12 มิ.ย. 2562 05:30 น.

Summary

หลบหน่อย “ช้าง” จะเดิน “เจ้าสัวเจริญ” สั่งลุย ส่งลูกสาว “วัลลภา ไตรโสรัส” จัดพอร์ตขุมทรัพย์อสังหาริมทรัพย์ นำ “แอสเสท เวิรด์ คอร์ป” หรือ AWC เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ รวมสุดยอดโรงแรมหรู อาคาร

Latest

กรุงศรี Q2 โกยกำไร  8,295 ล้าน โต 1%  ตั้งสำรองลดลง-คุมต้นทุนได้ แม้รายได้ดอกเบี้ยหด

หลบหน่อย “ช้าง” จะเดิน “เจ้าสัวเจริญ” สั่งลุย ส่งลูกสาว “วัลลภา ไตรโสรัส” จัดพอร์ตขุมทรัพย์อสังหาริมทรัพย์ นำ “แอสเสท เวิรด์ คอร์ป” หรือ AWC เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ รวมสุดยอดโรงแรมหรู อาคาร สำนักงานใจกลางย่านธุรกิจ คอมมูนิตี้ช็อปปิ้งมอลล์ และมิกซ์ยูสกลางเมืองอยู่ในพอร์ตเพียบ

นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.แอสเสทเวิรด์ คอร์ป (เอดับเบิลยูซี-AWC) ผู้ประกอบธุรกิจ พัฒนาและบริหารอสังหาริมทรัพย์ภายใต้เครือทีซีซี กรุ๊ป (TCC Group) หรือในกลุ่มช้างของเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี ในฐานะบุตรีของนายเจริญ เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทได้ยื่นคำขออนุญาตและแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อขอเสนอขายหุ้นสามัญให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) เรียบร้อยแล้ว เพื่อระดมเงินทุนนำไปลงทุนพัฒนาโครงการต่างๆ

โดยเอดับเบิลยูซีมีแผนพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่หลากหลาย โดยจุดแข็งและกลยุทธ์ในการพัฒนาและบริหารอสังหาริมทรัพย์ของบริษัท คือมีที่ดินและโครงการต่างๆตั้งอยู่บนทำเลที่มีศักยภาพทั่วประเทศไทย โดยบริษัทยังเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ (Freehold) เป็นส่วนใหญ่ และเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่มีความหลากหลาย ครบวงจร รวมทั้งมีทีมงานที่มีศักยภาพบริหารจัดการด้วยประสบการณ์อย่างยาวนานในธุรกิจ

ซึ่งปัจจุบันธุรกิจของบริษัทแบ่งเป็น 2 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ 1.กลุ่มธุรกิจโรงแรมและการบริการ (Hospitality) ซึ่งบริหารโดยผู้บริหารโรงแรมที่มีชื่อเสียงภายใต้แบรนด์ชั้นนำที่เป็นที่รู้จักระดับสากล อาทิ แมริออท, อะ ลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่น โฮเทล, โอกุระ, บันยันทรี, ฮิลตัน และเชอราตัน โดยปัจจุบันเป็นเจ้าของและผู้พัฒนาโรงแรม 15 แห่ง และกำลังทำสัญญาเข้าซื้อหุ้นเพิ่มเติมอีก 12 แห่ง มีจำนวนห้องพักของโรงแรมที่เปิดดำเนินการในปัจจุบัน 3,432 ห้อง ณ วันที่ 31 มี.ค.2562

2.กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ (Retail and Commercial Building) ซึ่งมีทั้งอสังหาริมทรัพย์ เพื่อประกอบกิจการการค้า (Retail and Wholesale) ได้แก่ สถานที่ท่องเที่ยวแนวไลฟ์สไตล์ คอมมูนิตี้ ช็อปปิ้งมอลล์ คอมมูนิตี้ มาร์เก็ต และอสังหาริมทรัพย์เพื่อประกอบกิจการการค้าส่ง โดยมีโครงการที่มีชื่อเสียงคือ โครงการเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์, โครงการเกตเวย์ แอท บางซื่อ, โครงการพันธุ์ทิพย์ พลาซ่า ประตูน้ำ และโครงการตะวันนา บางกะปิ และกลุ่มอาคารสำนักงาน (Office) โดยโครงการที่โดดเด่นคือ อาคารเอ็มไพร์ ทาวเวอร์ และอาคารแอทธินี ทาวเวอร์ ซึ่งตั้งอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพใจกลางย่านธุรกิจของกรุงเทพฯ

ทั้งนี้ บริษัทมุ่งมั่นเป็นกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ทันสมัยและเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นองค์กรชั้นนำด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ในประเทศไทยโดยคาดว่าจะได้ประโยชน์จากพื้นฐานเศรษฐกิจในระดับมหภาคที่ดี เช่น การเติบโตอย่างรวดเร็วของธุรกิจการท่องเที่ยว การขยายตัวของประชากรที่อาศัยอยู่ในเมือง และการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศไทย เป็นต้น

“เราเป็นเจ้าของโรงแรมรายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในไทย โดยมุ่งมั่นที่จะเสริมความแข็งแกร่งในฐานะผู้พัฒนา และเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทยในกลุ่มธุรกิจโรงแรมและการบริการ เนื่องจากประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก โดยปี 2561 มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางมายังประเทศ ไทยกว่า 38 ล้านคน นอกจากนี้ ไทยยังเป็นจุดหมายปลายทางของการทำกิจกรรมสันทนาการและการใช้ชีวิต ทำให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักของประเทศ ซึ่งมีศักยภาพในการเติบโตสูง”

สำหรับการเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ครั้งนี้ นางวัลลภากล่าวว่า เนื่องจากต้องการให้เอดับเบิลยูซี เป็นบริษัทมีมาตรฐานและความยั่งยืน ภายใต้การกำกับดูแลที่มีประสิทธิภาพและมีธรรมาภิบาลที่เข้มงวด ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจมีความแข็งแกร่งและเป็นระบบมากขึ้น ต่างกับการดำเนินธุรกิจแบบครอบครัว ส่วนผลประกอบการย้อนหลัง 3 ปีที่ผ่านมา สามารถเติบโตต่อเนื่องตามการขยายตัวของเศรษฐกิจและจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ