กดดัน!!

ตลาดหุ้นทั่วโลกยังคงเผชิญแรงกดดันจากปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน รวมทั้งตลาดหุ้นในกลุ่ม TIPs

คือตลาดหุ้นไทย อินโดนีเซีย และตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ที่มีความเสี่ยงในแง่เศรษฐกิจภายในประเทศที่อาจถูกปรับลดประมาณการ

การเติบโตของเศรษฐกิจและตลาดหุ้นลง จากผลของสงครามการค้า

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดหลายสำนักวิเคราะห์ของไทยได้ปรับลดเป้าหมายการส่งออกและการเติบโตของ GDP ปีนี้ลงบ้างแล้ว

ขณะที่ยังคงมีความคาดหวังว่าสงครามการค้าน่าจะมีความชัดเจนมากขึ้นในการพบปะของผู้นำทั้งสองประเทศบนเวทีการประชุม G20 ในเดือน มิ.ย.

บล.โนมูระ พัฒนสิน ประเมินว่า หุ้นไทยสัปดาห์นี้ยังคงมีความผันผวนสูง ทั้งจากปัจจัยภายนอกประเทศและปัจจัยการเมืองภายในประเทศที่กำลังเข้าโค้งสุดท้ายของการจับขั้วจัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่มาจากการเลือกตั้ง ก่อนที่จะกำหนดเปิดประชุมรัฐสภาในวันที่ 24 พ.ค.นี้ และมีการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรและนายกรัฐมนตรีคนใหม่ในปลายเดือนนี้

แนะกลยุทธ์การลงทุนด้านเทคนิคให้กรอบดัชนีไว้ที่ 1,550–1,620 จุด หากดัชนีปรับตัวลงมาที่แนวรับ 1,595–1,585 จุด เป็นจังหวะในการเลือกซื้อหุ้นในเชิงพื้นฐาน โดยแนะนำหุ้น STEC–BBL–CPF– SABINA–SPALI ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,630–1,650 จุด

บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) มองสัปดาห์นี้ดัชนีมีโอกาสรีบาวด์จากที่ปรับตัวลงมาลึกมากแล้ว ทำให้แรงขายเบาบางลง และน่าจะมีแรงรับเข้ามาซื้อหุ้นพื้นฐานดีที่ราคาปรับลงแรงประกอบกับประเมินทิศทางการเมืองในประเทศที่น่าจะเห็นความชัดเจนมากขึ้น

แต่มองว่าการปรับขึ้นยังมีจำกัดอยู่ในกรอบแนวต้าน 1,650 จุด เพราะตลาดยังรอปัจจัยจากสงครามการค้าเป็นหลัก ส่วนแนวรับให้ไว้ที่บริเวณ 1,590 จุด!!

อินเด็กซ์ 51