ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 22 ม.ค.62 ปิดที่ 1,601.77 จุด เพิ่มขึ้น 13.39 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 49,265.90 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 1,244.47 ล้านบาท
หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด BDMS ปิด 22.70 บาท บวก 1.10 บาท, CPALL ปิด 75.25 บาท ลบ 0.50 บาท, PTT ปิด 49.50 บาท บวก 0.75 บาท, SCB ปิด 127 บาท ลบ 1.50 บาทและ KBANK ปิด 189 บาท บวก 1.50 บาท
หุ้นไทยปรับขึ้น หลังมีแรงซื้อกลับหุ้นกลุ่มโรงพยาบาล และราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง
บล.โกลเบล็ก มองหุ้นไทยได้อานิสงส์จากปัจจัยต่างประเทศ มีทิศทางเชิงบวกมากขึ้น โดยเฉพาะธนาคารกลางสหรัฐฯ มีความระมัดระวังมากขึ้นในการปรับขึ้นดอกเบี้ย จากที่คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯปีนี้จะขยายตัวราว 2-2.5% ซึ่งมีแนวโน้มชะลอตัวลงจากปี 61
และสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนมีแนวโน้มคลี่คลายลงโดยสหรัฐฯ กำลังพิจารณาผ่อนคลายมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน ขณะที่จีนเสนอเพิ่มการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯมากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ เพื่อแก้ปัญหาการขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ
ส่วนปัจจัยที่ยังคงกดดันตลาดหุ้นช่วงนี้ เช่น การส่งออกไทย ธ.ค.61 ลดลง 1.72% แย่กว่าที่ตลาดคาดว่าจะหดตัว 0.6% ส่วนการส่งออกทั้งปี 61 โต 6.7% พลาดเป้าที่ระดับ 8% รวมถึงจีนเผย GDP ไตรมาส 4/61 ขยายตัว 6.4% ดีกว่าคาดที่ 6.3% ตลอดปี 61 ขยายตัว 6.6% แม้สูงกว่าเป้าที่รัฐบาลจีนกำหนดที่ 6.5% แต่ต่ำกว่าปี 60 ที่ขยายตัว 6.9% และภาวะชัตดาวน์ของสหรัฐฯ ยังยืดเยื้อทำสถิติยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ กดดันการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ช่วงไตรมาสแรก
ขณะที่ปัจจัยที่ยังคงจับตาสัปดาห์นี้ คือ ความชัดเจนของวันเลือกตั้ง มองตลาดผันผวนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 1,565-1,605 จุด แนะลงทุนหุ้น High Dividend Yield คือ KAMART, SIRI, SNC, ORI, DIF, BTS, GIF, SC, MC, AIT, QH, KKP, TKS
รวมถึงหุ้นที่ได้อานิสงส์จากมาตรการคืน VAT 5% กระตุ้นช็อปช่วงตรุษจีน แนะนำ CPALL, MAKRO, BJC และหุ้นที่ได้ประโยชน์จากขยายเวลาให้ฟรีค่าธรรมเนียม VOA แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติถึง 30 เม.ย.62 ได้แก่ AOT, CENTEL, ERW!!
อินเด็กซ์51