“สมคิด” สั่งได้หุ้นไทยบวก20จุด

Investment

Capital Market

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

“สมคิด” สั่งได้หุ้นไทยบวก20จุด

Date Time: 26 ต.ค. 2561 08:44 น.

Summary

หุ้นไทยผันผวนหนัก สวิงขึ้นลงกว่า 40 จุดตลอดทั้งวัน โดยเปิดตลาดดิ่ง 26 จุดหลุด 1,600 จุด แต่กลับดีดกลับท้ายตลาดปิดเขียว บวก 20.96 จุด

Latest

หนีไปนอกแล้ว ค่อยสั่งอายัด? ก.ล.ต. ชี้แจงกรณี JKN ล่าสุด สั่งกล่าวโทษเพิ่ม รวม 12 ราย

สำลักข่าวดี! รับรางวัลระดับโลก-กบข.จ่อเพิ่มลงทุน

หุ้นไทยผันผวนหนัก สวิงขึ้นลงกว่า 40 จุดตลอดทั้งวัน โดยเปิดตลาดดิ่ง 26 จุดหลุด 1,600 จุด แต่กลับดีดกลับท้ายตลาดปิดเขียว บวก 20.96 จุด หลังรองนายกฯ สมคิด ร่ายมนต์เรียกความเชื่อมั่นนักลงทุนไทย ขณะที่ กบข.ออกข่าวดีตั้งกองทุนพันล้านบาทจ่อลงทุนหุ้นไทยเพิ่ม พร้อมๆบวกกับข่าวดีอีกข่าว ตลาดหุ้นไทยได้รางวัลดีเด่นระดับโลกส่งตรงจากยูเอ็น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยวันที่ 25 ต.ค.2561 ที่ผ่านมา ยังคงผันผวนหนักต่อเนื่อง โดนแรงเทขายออกมากดดัชนีปรับตัวลงรุนแรงตั้งแต่เปิดตลาด จนดัชนีหลุดระดับ 1,600 จุด ลงไปต่ำสุดของวันที่ 1,596.87 จุด หรือลดลงกว่า 26 จุด ตามการปรับลงของตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยเฉพาะดัชนีดาวโจนส์ ที่ปรับลงกว่า 600 จุด

อย่างไรก็ตาม ภายหลังนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาให้สัมภาษณ์เรียกความเชื่อมั่นนักลงทุนว่า ไม่ต้องการให้นักลงทุนตื่นตกใจกับตลาดที่ปรับลงแรง เพราะต่างชาติยังมีมุมมองที่ดีต่อเศรษฐกิจไทย และเห็นไทยเป็นสวรรค์แห่งการลงทุนที่ปลอดภัย รวมทั้งสั่งให้กระทรวงการคลังเร่งผลักดันลงทุนโครงสร้างพื้นฐานให้ได้ตามเป้าหมายเพื่อดึงดูดและสร้างความเชื่อมั่นให้ต่างชาติ ส่งผลให้เปิดตลาดภาคบ่ายมีแรงซื้อกลับเข้ามาหนุนดัชนีเด้งกลับขึ้นมายืนในแดนบวกและทะยานมาปิดตลาดปรับตัวขึ้นได้ถึง 20.96 จุด มาปิดที่ 1,644.33 จุด สร้างปาฏิหาริย์ให้กับตลาดหุ้นไทย ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขายหนาแน่น 76,086.34 ล้านบาท

แรงซื้อที่เข้ามาหนาแน่นยังเป็นผลจากการที่ 2 หน่วยงาน ทั้งกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) และตลาดหลักทรัพย์นัดกันออกข่าวดีไล่ข่าวร้าย โดย กบข.ระบุว่าจะเพิ่มน้ำหนักลงทุนหุ้นไทย และตั้งกองทุนมูลค่า 1,000 ล้านบาท เพื่อลงทุนในหุ้นยั่งยืน 33 ตัวในตลาด ขณะที่ตลาดหลักทรัพย์ออกข่าวได้รางวัลจากองค์การสหประชาชาติ จัดอันดับให้ตลาดหุ้นไทยเป็นตลาดที่มีบริษัทจดทะเบียนเปิดเผยข้อมูลด้านความยั่งยืนโดดเด่น และมีคุณภาพมากที่สุด โดยเป็นที่หนึ่งในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ และเป็นแห่งเดียวในเอเชียที่ติดอันดับ Top 10 ของโลก ทั้งนี้ เมื่อเปิดตลาดนักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิต่อเนื่องอีก 4,113.55 ล้านบาท พอร์ตโบรกเกอร์ขายสุทธิ 609.36 ล้านบาท ขณะที่กองทุนหรือสถาบันในประเทศกลับมาซื้อสุทธิ 4,446.10 ล้านบาท และรายย่อยซื้อสุทธิ 276.81 ล้านบาท

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ดัชนีหุ้นไทยที่ร่วงแรงในสัปดาห์นี้ ส่วนใหญ่เป็นหุ้นน้ำมัน ซึ่งตอนที่น้ำมันขึ้น ราคาหุ้นกลุ่มนี้ ก็ขึ้นแรง เมื่อราคาน้ำมันลง หุ้นก็ปรับตัวลดลงด้วย จึงไม่อยากให้นักลงทุนตื่นตระหนกกับเรื่องนี้ เพราะเศรษฐกิจไทยยังมีมุมมองที่ดีในสายตาต่างชาติ และมองว่าเรายังเป็นแหล่งลงทุนสินทรัพย์ปลอดภัย (Save Haven) ทั้งนี้ ตนได้มอบหมายให้กระทรวงการคลัง และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เร่งพิจารณาผลักดันโครงสร้างพื้นฐาน และการลงทุนให้เป็นไปตามเป้าหมายในต้นปีหน้า เพื่อทดแทนการส่งออกที่อาจชะลอไปบ้างจากเศรษฐกิจโลกชะลอ เพราะกว่าจะได้รัฐบาลใหม่จากการเลือกตั้งต้องใช้เวลา 1 ไตรมาส ดังนั้น การลงทุนโครงการขนาดใหญ่ จึงเป็นแม่เหล็กสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน

ด้านนายวิชัย รัตนากร เลขาธิการ กบข. กล่าวว่า แม้หุ้นไทยจะปรับตัวลง แต่ กบข.มีแผนปรับสัดส่วนการลงทุนในหุ้นไทยขึ้นจาก 7% เนื่องจากเศรษฐกิจในประเทศมีทิศทางเติบโตที่ดี และความชัดเจนในการเลือกตั้งที่มีมากขึ้น ขณะที่การลดลงของตลาดมีปัจจัยกดดันจากภายนอกเป็นหลัก ทำให้ช่วงนี้เป็นช่วงที่น่าเข้าซื้อเพื่อเก็งกำไร

“กบข.ได้จัดตั้ง ESG Focused Portfolio หรือพอร์ตเพื่อลงทุนในหุ้นที่ผ่านเกณฑ์การคัดเลือกด้าน ESG หรือการดำเนินธุรกิจ โดยคำนึงถึงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล มูลค่า 1,000 ล้านบาท โดยขณะนี้มีอยู่ 33 กิจการที่มีคุณสมบัติ โดยกิจการหรือหุ้นดังกล่าวจะต้องอยู่ในรายชื่อหุ้นยั่งยืนของตลาดหลักทรัพย์ (THSI) มีรายชื่ออยู่ใน SET100 และผ่านเกณฑ์ประเมินมาตรฐาน ESG ของ กบข.ด้วย”

ขณะที่นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ ได้ประกาศข่าวดีเช่นกัน โดยได้กล่าวถึง การประชุม SSE Global Dialogue ณ กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นส่วนหนึ่งของงาน World Investment Forum (WIF) 2018 ซึ่งเป็นเวทีแลกเปลี่ยนแนวคิดการพัฒนาความยั่งยืนระหว่างผู้นำของตลาดหลักทรัพย์และตลาดทุนทั่วโลกว่า ในการประชุมองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ได้มอบรางวัล “United Nations Sustainable Stock Exchanges Market Transparency Award” ให้ตลาดหลักทรัพย์ไทย เนื่องจากมีบริษัทจดทะเบียนที่เปิดเผยข้อมูลด้านความยั่งยืนมากที่สุดในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ เป็นอันดับหนึ่งในเอเชีย และลำดับ 7 จากตลาดหลักทรัพย์ 35 แห่งทั่วโลก ถือเป็นพัฒนาการที่ก้าวกระโดดจากอันดับที่ 40 ของโลกในปี 56 เป็นอันดับ 10 ในปี 60 และอันดับ 7 ในปีนี้.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ