EA แจงไม่เกี่ยว!!

Investment

Capital Market

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

EA แจงไม่เกี่ยว!!

Date Time: 5 ต.ค. 2561 05:01 น.

Summary

  • ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 4 ต.ค.61 ปิดที่ 1,729.40 จุด ลดลง 12.56 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 64,311.40 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 4,958.5 ล้านบาท...

Latest

ตะวันออกกลางปะทุ อิสราเอล-อิหร่าน เปิดฉากโจมตี ดัน “น้ำมัน-ทอง” พุ่ง เช็กด่วนหุ้น “ได้-เสีย” ?

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 4 ต.ค.61 ปิดที่ 1,729.40 จุด ลดลง 12.56 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 64,311.40 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 4,958.5 ล้านบาท

หุ้นที่ซื้อขายสูงสุด PTT ปิด 53 บาท ลบ 0.50 บาท, IVL ปิดที่ 61.25 บาท ลบ 0.75 บาท, PTTEP ปิด 154 บาท ลบ 2.50 บาท, EA ปิด 47 บาท ลบ 1.25 บาท, CPALL ปิด 69.25 บาท ลบ 0.25บาท

EA แจ้งตลาดหลักทรัพย์ ว่าตามที่มีการร้องเรียนต่อหน่วยงานราชการเกี่ยวกับการจัดทำโครงการนิคมอุตสาหกรรม EEC ที่ฉะเชิงเทรา จำนวนกว่า 2,000 ไร่ ว่าดำเนินการอย่างไม่ถูกต้องและนิคมฯ ดังกล่าวเป็นโครงการของบริษัทนั้น

ขอชี้แจงว่า ไม่ใช่โครงการของบริษัทและบริษัทไม่ได้เข้าลงทุน และขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างเริ่มลงทุนในโครงการแบตเตอรี่ลิเทียมเฟสที่ 1 และไม่ได้รับผลกระทบจากการร้องเรียนที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด

ปิดท้ายมีบทวิจัย บล.เอเซีย พลัส มองผลกระทบเกณฑ์กำกับดูแลสินเชื่อที่อยู่อาศัยของแบงก์ชาติใหม่ ค่อนข้างจำกัด แม้เป็นการควบคุมสินค้าทุกประเภท ทั้งแนวราบและคอนโดมิเนียม แต่ปัจจุบันในทางปฏิบัติการวางเงินดาวน์ส่วนใหญ่ กำหนดไว้ 15-20% อยู่แล้ว และที่อยู่อาศัยราคาเกิน 10 ล้านบาท ส่วนใหญ่กำหนดเงินดาวน์เกิน 20%

จึงมองผลกระทบจากเกณฑ์ใหม่ค่อนข้างจำกัด นอกจากนี้ การบังคับใช้มาตรการใหม่ จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.62 อาจทำให้เห็นการเร่งขายและโอนกรรมสิทธิ์ เพื่อให้ทันใช้เกณฑ์เดิมภายในไตรมาส 4 ปี 61 นี้

โดย Backlog ซึ่งรวม JV ณ สิ้นเดือน มิ.ย.61 ที่ราว 3.32 แสนล้านบาท เป็นส่วนที่รอรับรู้รายได้ช่วงครึ่งหลังปีนี้ราว 1.16 แสนล้านบาท แยกเป็นของบริษัทเอง 8.13 หมื่นล้านบาท และ JV 3.5 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะถูกแปลงเป็นยอดโอนเร็วขึ้น

สำหรับผู้ประกอบการที่จะได้รับผลกระทบ คือ กลุ่มที่ทำคอนโดฯ และเก็บเงินดาวน์ต่ำกว่า 20% ซึ่งส่วนใหญ่เจาะตลาดลูกค้ากลางลงล่าง แต่เชื่อว่าผู้ประกอบการน่าจะปรับตัว โดยให้เวลาผ่อนดาวน์ยาวขึ้นขณะที่แนวราบไม่กระทบมากนัก เนื่องจากผู้ซื้อเพื่อเก็งกำไรน้อย

ภายใต้เกณฑ์ใหม่ เชื่อว่าผู้ประกอบการจะปรับตัวเพื่อลดผลกระทบ เช่น แนวราบจะเพิ่มสัดส่วนบ้านสั่งสร้าง หรือสร้างก่อนขาย ส่วนคอนโดฯ จะเปิดขายเร็วขึ้น จากเดิมที่ต้องพร้อมทุกอย่างแล้วค่อยเปิดขาย รวมถึงผู้ประกอบการ จะกระจายสินค้าให้ครอบคลุมทุกกลุ่มมากขึ้น

ฝ่ายวิจัยฯ คงแนะนำลงทุนหุ้นกลุ่มพัฒนาที่อยู่อาศัย เท่ากับตลาด เลือกหุ้นที่ให้ Div Yield สูง และมีโครงสร้างรายได้จากแนวราบเป็นหลัก ได้แก่ LH, QH และ SC!!

อินเด็กซ์ 51


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ