SCB ปรับเป้าหมายทางการเงิน!!

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 19 ก.ค.61 ปิดที่ 1,646.89 จุด เพิ่มขึ้น 11.04 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 42,436.68 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 422.31 ล้านบาท

หุ้นที่ซื้อขายสูงสุด AOT ปิด 63 บาท บวก 2 บาท, PTT ปิด 49.50 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง, KTC ปิด 32.25 บาท บวก 0.75 บาท, PTTEP ปิด 131 บาท บวก 1 บาท และ BEAUTY ปิด 7.80 บาท บวก 0.45 บาท

“ประกิต สิริวัฒนเกตุ” จาก บล.กสิกรไทย ระบุว่า ยังคงเป้าดัชนีหุ้นไทยปลายปีนี้ 1,898 จุด ปัจจัยในประเทศเป็นบวก คาดว่า จะกำหนดวันเลือกตั้งที่ชัดเจนได้ พ.ย.61 ประเมินวันเลือกตั้งอย่างเร็วสุดคือ ก.พ.62 และช้าสุด พ.ค.62 ซึ่งจะผลักดันให้เกิดการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ ตั้งแต่ครึ่งปีหลังปี 61 ถึงครึ่งแรกปี 62 ส่วนการท่องเที่ยวโตได้ต่อเนื่อง การบริโภคดีขึ้นทั้งภาคการเกษตร และนอกภาคเกษตร

หุ้นน่าลงทุน คือกลุ่มที่อิงตามเศรษฐกิจในประเทศ คือกลุ่มแบงก์, การเงิน, อสังหาริมทรัพย์และค้าปลีกเลือกหุ้นเด่น BBL ราคาเป้าหมาย 224 บาท, KTB เป้า 20.50 บาท, MTC เป้า 48 บาท, ORI เป้า 24 บาท, LH เป้า 12.90 บาท, AP เป้า 10.20 บาท, SPALI เป้า 27 บาท, QH เป้า 3.90 บาท, CPN เป้า 92 บาท, CPALL เป้า 100 บาท, BEAUTY เป้า 12 บาท, BEM เป้า 8.30 บาท, KCE เป้า 39.75 บาท, HANA เป้า 44 บาท และ IVL เป้า 66 บาท

ทั้งนี้ กรณีเลวร้ายสุดหากไม่มีการเลือกตั้งปี 62 และเศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่ชะลอตัว เกิดสงครามการค้าเต็มรูปแบบ เป้าดัชนีจะลดลงไปอยู่ที่ 1,423 จุด

ปิดท้าย ดร.อารักษ์ สุธีวงศ์ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ธนาคารไทยพาณิชย์ แจ้งตลาด บอร์ดธนาคารมีมติอนุมัติปรับเป้าหมายทางการเงินของธนาคารปี 61 ในส่วนของอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ (Cost-to-Income Ratio) เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน

มีสาระสำคัญดังนี้ 1.Net Interest Margin (NIM) เป้าหมายอยู่ที่ 3.1-3.3% 2.Non Interest Income Growth Up to 5% 3.Cost-to-Income Ratio 45-47% 4.Loan Growth 6.0-8.0% 5.NPL Ratio (Gross) น้อยกว่าหรือเท่ากับ 3.0% 6.Coverage Ratio มากกว่าหรือเท่ากับ 130%

ทั้งนี้ เป้าหมายทางการเงินนี้เป็นการคาดการณ์เบื้องต้น อาจเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นกับสภาพการดำเนินธุรกิจที่อาจไม่เป็นไปตามคาด หากภาวะเศรษฐกิจและสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป!!

อินเด็กซ์ 51