จีนกับการเปลี่ยนผ่าน “พลังงาน”

เมื่อเร็วๆ นี้ ผู้เขียนได้ร่วมคณะไปเยือนนครกวางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีนกับ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR เพื่อเยี่ยมชมกิจการของบริษัท Baiyun Power Group ที่เมืองกวางโจว ในฐานะที่เป็นผู้ผลิตอุปกรณ์ระบบไฟฟ้าชั้นนำของจีน ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2531 (จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ ภายใต้รหัส 603861.SH) ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด 4,208 ล้านหยวน (RMB) หรือ ประมาณ 1.9 หมื่นล้านบาท 

โดยบริษัทดำเนินธุรกิจครอบคลุมตลอดห่วงโซ่อุตสาหกรรมพลังงาน ตั้งแต่การผลิตพลังงานสะอาด การส่งและกระจายกำลังไฟฟ้า ไปจนถึงการใช้พลังงานอย่างชาญฉลาด รวมถึงการพัฒนาโซลูชันด้านสมาร์ทซิตี้ อาทิ ระบบขนส่งรางไฟฟ้าอัจฉริยะ ระบบน้ำอัจฉริยะ ระบบสาธารณสุขอัจฉริยะ ระบบโลหการอัจฉริยะ อาคารและนิคมอุตสาหกรรมคาร์บอนต่ำ

ที่สำคัญ Baiyun Power Group มีความโดดเด่นด้วยผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมระดับแรงดันตั้งแต่ 0.4 kV ถึง 1,100 kV นับเป็นหนึ่งในผู้ผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีพอร์ตผลิตภัณฑ์ครบถ้วนที่สุดในประเทศ และเป็นผู้จัดหาอุปกรณ์และระบบควบคุมหลักให้กับโครงการสำคัญระดับชาติ เช่น State Grid, China Southern Power Grid ระบบรถไฟฟ้าในเมือง และศูนย์ข้อมูลต่าง ๆ โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่นครกวางโจว และมีฐานการผลิตรวม 21 แห่งใน 20 เมืองทั่วประเทศ

ขณะเดียวกัน ในด้านโครงสร้างพื้นฐานยานยนต์ไฟฟ้า (EV Infrastructure) บริษัทก็มีความเชี่ยวชาญในการวิจัย พัฒนา และผลิตอุปกรณ์ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ทั้งแบบชาร์จเร็วกระแสตรง (DC Fast Charger) และชาร์จธรรมดากระแสสลับ (AC Charger) รวมถึงระบบบริหารจัดการสถานีชาร์จแบบครบวงจร ผ่านแพลตฟอร์ม SaaS

นอกจากนี้ ยังให้บริการระบบจ่ายไฟฟ้า สำหรับระบบขนส่งมวลชนไฟฟ้า อาทิ รถไฟใต้ดินและรถไฟฟ้ารางเบา ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานสีเขียว

ผลงานสำคัญ ๆ ของ Baiyun Power Group ยังมีอีกมากมาย อาทิ โครงการนิคมอุตสาหกรรมคาร์บอนเป็นศูนย์ (Zero-Carbon Industrial Park) โดยใช้โรงงานและนิคมอุตสาหกรรมของบริษัทเป็นพื้นที่สาธิตด้านพลังงานสะอาดและดิจิทัลโซลูชัน ติดตั้งระบบโซลาร์รูฟท็อป ระบบกักเก็บพลังงาน สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า และระบบจัดการพลังงานแบบบูรณาการ สามารถเพิ่มสัดส่วนการพึ่งพาตนเองด้านพลังงานและยกระดับประสิทธิภาพการใช้พลังงานอย่างมีนัยสำคัญ

ขณะเดียวกัน หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ได้เปิดเผยเรื่องราวเกี่ยวกับกิจการ “OR EV Ecosystem & Future Trend” ที่สะท้อนบทบาทของ OR ในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านพลังงานของประเทศ ผ่านโครงสร้างพื้นฐานยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่ครบวงจร เพราะประเทศไทยมีเป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2050 โดยมีหนึ่งในแนวทางขับเคลื่อนคือกำหนดเป้าหมายให้ 30% ของรถยนต์ที่ผลิตในประเทศเป็นรถไฟฟ้าภายในปี 2030 และสนับสนุนการพัฒนาโครงข่ายสถานีชาร์จให้เพียงพอกับปริมาณรถไฟฟ้าที่จะเพิ่มขึ้น

“OR มีสถานีชาร์จ EV Station PluZ เข้ามาต่อยอดการดำเนินธุรกิจสถานีบริการ เสริมความแข็งแกร่งของระบบนิเวศธุรกิจ ขยายเครือข่าย EV Station PluZ ให้ครอบคลุม พร้อมเป้าหมายขยายสถานีชาร์จ 7,000 หัวชาร์จ DC ทั่วประเทศภายในปี 2030 เพื่ออำนวยความสะดวก เพิ่มความมั่นใจให้แก่ผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ และวิถีชีวิตของคนยุคใหม่ โดยปัจจุบัน OR มีหัวชาร์จแล้วกว่า 3,300 หัวชาร์จ ทั้งในสถานีบริการ PTT Station สถานีก๊าซหุงต้ม สถานีเอ็นจีวี รวมถึงขยายสถานีชาร์จทั้งในและนอก PTT Station”

ล่าสุด OR ยังมุ่งพัฒนาแอปพลิเคชัน EV Station PluZ ให้เป็นศูนย์กลางประสบการณ์ “จอง–ชาร์จ–จ่าย–สะสมแต้ม” ในช่องทางเดียว และศูนย์บริการลูกค้าครบวงจร พร้อมยกระดับเทคโนโลยี Quick Charger ที่รองรับกำลังไฟในทุกระดับ เพื่อรองรับทั้งรถยนต์ไฟฟ้าส่วนบุคคลและรถเชิงพาณิชย์ รวมทั้งเริ่มขยายสู่หัวชาร์จแบบ Ultra Fast Charging เพื่อรองรับรถ EV รุ่นใหม่ซึ่งมาพร้อมเทคโนโลยีที่สามารถชาร์จได้เร็วเป็นพิเศษ

“ผมขอย้ำว่า OR มองธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า ไม่ได้มาแทนธุรกิจน้ำมัน แต่เป็นการต่อยอดโครงสร้างธุรกิจเดิมให้ตอบโจทย์พลังงานสะอาด และสร้างโอกาสใหม่ให้สถานีบริการพีทีที สเตชั่น โดยมองว่าการชาร์จรถไฟฟ้าทำให้ลูกค้าใช้เวลาในสถานีจากเดิม 5 นาที เพิ่มเป็น 30–45 นาที”

ดังนั้น OR จึงจะใช้เป็นกลยุทธ์ในการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์นอกสถานีบริการน้ำมัน หรือ “OR SPACE” ที่ปรับโฉม Ecosystem ของ OR ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคยุค Energy Transition โดยผสานพื้นที่เชิงพาณิชย์ บริการไลฟ์สไตล์ และบริการเสริมด้าน EV เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อให้สถานีบริการกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่ตอบโจทย์ทั้งการเดินทางและการใช้ชีวิต และขยาย OR Ecosystem ภายในสถานีบริการทั้งร้าน Café Amazon และร้านอาหารต่าง ๆ ตลอดจนบริการด้านสุขภาพและไลฟ์สไตล์ เช่น คลินิกโอบอ้อม ร้าน found & found ซึ่งรวมสินค้าสุขภาพและความงาม และ Otteri WASH & DRY เป็นต้น เพื่อเปลี่ยนสถานีบริการให้เป็นจุดหมายปลายทางที่ทั้ง “ชาร์จรถ และชาร์จพลังชีวิต” ไปพร้อมกันกับการเปลี่ยนผ่านพลังงานของประเทศ

ติดตามข่าวสารด้านธุรกิจการตลาด กับ Thairath Money ได้ที่

https://www.thairath.co.th/money/business_marketing

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้  https:// www.facebook.com/ThairathMoney