เศรษฐกิจไทย ติดกับดัก “โตต่ำ”

ตัวเลขที่สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เพิ่งประกาศออกมา คือการเติบโตไตรมาส 2 ที่ 2.8% ลดลงจาก 3.2% ไตรมาสแรก แม้ครึ่งปีแรกยังเฉลี่ยโตได้ 3% แต่สิ่งที่คนทั้งประเทศต้องจับตาคือ การปรับคาดการณ์ทั้งปี ที่ขยับจาก 1.3–2.3% ขึ้นมาเป็น 1.8–2.3%

พูดให้เข้าใจง่าย ๆ คือ “แม้จะอัพเกรดขึ้น แต่ก็ยังอยู่ในโซนต่ำ” จนอาจไม่สามารถแข่งขันกับเพื่อนบ้านในอาเซียนได้

กำลังซื้อหายไปไหน? คนไทยยัง “จน” ทำไมเศรษฐกิจยังโตไม่แรง? คำตอบคือ… “กระเป๋าสตางค์ประชาชน” ยังแห้งเหือด!

หนี้ครัวเรือนบวมจนคนไทยต้องรัดเข็มขัด จากการประกาศผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 2/2568 การบริโภคเอกชนโตเพียง 2.1% ลดจาก 2.5% ในไตรมาสแรก ความเชื่อมั่นผู้บริโภคดิ่งลงเหลือ 48.0 แม้ยอดขายรถยนต์พุ่ง 10.7% แต่ก็ไม่พอจะชุบชีวิตเศรษฐกิจ เพราะร้านอาหาร โรงแรม ร้านค้าปลีกยังบ่นอุบ

การท่องเที่ยวเป็นพระเอกที่เริ่มหมดแรง นักท่องเที่ยวต่างชาติไตรมาส 2 เข้ามา 7.1 ล้านคน ทำรายได้ 0.647 ล้านล้านบาท แม้โต 12.1% จากปีก่อน แต่ถ้าเทียบกับไตรมาสแรก กลับลดลงถึง -12.2%

แถมสศช. ยังประกาศปรับลดเป้าทั้งปีจาก 37 ล้านคน เหลือเพียง 33 ล้านคน นี่คือสัญญาณว่าท่องเที่ยวที่หวังพึ่งอาจไม่ฟื้นแรงอย่างที่คิด

แม้จะมีข่าวดีเล็ก ๆ คือการลงทุนเอกชนกลับมาโผล่หัวโต 4.1% ในรอบ 5 ไตรมาส โดยเฉพาะเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่โต 5.9% แสดงว่าบางธุรกิจยังพยายามเดินหน้า แต่ฝั่งก่อสร้างกลับติดลบ -2.0% รัฐบาลเองแม้ลงทุนโต 10.1% แต่ก็ชะลอลงแรงจากไตรมาสก่อน เพราะ “งบเบิกจ่ายไม่ทัน” เงินไม่ไหลลงสู่ระบบจริง

ด้านการส่งออกที่โตแรง 15% เป็นเพราะ “รีบขายก่อนโดน“ภาษีทรัมป์” ถ้าใครเห็นตัวเลขส่งออกไตรมาส 2 โต 15% หรือกว่า 84,171 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อาจเฮ! แต่ที่จริงเบื้องหลังเต็มไปด้วยแรงกดดัน เพราะถูกสหรัฐฯ งัดไม้แข็งด้วยมาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) ทำให้คู่ค้าต้องรีบตุนสินค้าไทยก่อนโดนภาษี โดยสินค้าโตแรงเป็นพิเศษ เช่น คอมพิวเตอร์ +210% แผงวงจร +42% ชิ้นส่วนยานยนต์ +15%

ตลาดสหรัฐฯ เพียงแห่งเดียวพุ่ง 33.9% แต่ถามว่าพอขึ้นภาษีแล้วจะยังไปต่อได้หรือไม่? คำตอบคือ “น่าห่วง!”

เกษตรกรน้ำตาซึม ผลิตมากแต่ขายถูก เป็นอีกเรื่องที่น่าห่วง เพราะข้าวเปลือก ผลไม้ ปาล์มน้ำมัน ผลิตได้เพิ่มขึ้น แต่ราคาตกฮวบ ดัชนีราคาสินค้าเกษตร -11.7% ทำให้รายได้เกษตรกรหดตัว -6.6% นี่คือ “ภาพสะท้อนความเจ็บปวด” ของเกษตรกรที่ยิ่งทำงานหนัก แต่ยิ่งได้เงินน้อยลง

ขณะที่ความเสี่ยงครึ่งปีหลัง ยังไว้ใจไม่ได้! หัวใจสำคัญคือ เศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังยังเต็มไปด้วย “ระเบิดเวลา” จากมาตรการกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ ยังไม่สิ้นสุด และอาจงัดมาตรการใหม่ ๆ เพิ่มเติม

โดยเฉพาะสินค้าเฝ้าระวัง 49 รายการ ที่กระทรวงพาณิชย์ประกาศ ครอบคลุมมูลค่าการส่งออกไทยไปสหรัฐฯ ถึง 80.6% เช่น ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์, ยางรถยนต์, แผงวงจรพิมพ์, อลูมิเนียมขึ้นรูป หากถูกจับได้ว่าเป็น “สินค้าส่งผ่าน” (Transshipment) ไทยอาจถูกเก็บภาษีโหดในอัตรา 40% ถ้าไม่จัดการเข้มงวด เศรษฐกิจไทยอาจโดนซ้ำเติมอย่างแรง โต 2% 

เป็นเสียงเตือนว่ากำลัง “ถอยหลัง” แม้ว่า สศช. ปรับจีดีพีขึ้นเล็กน้อยเป็น 1.8–2.3% ดูเหมือนข่าวดี แต่เมื่อเทียบกับเพื่อนบ้าน มันคือข่าวร้าย! เมื่อเวียดนาม โต 5–6% อินโดนีเซีย โต 4–5% ฟิลิปปินส์ โตเกือบ 6% ไทยที่โตเพียง 2% กำลังถูกทิ้งห่างในทุกสนาม ทั้งการลงทุน การส่งออก และการพัฒนาแรงงาน

บทสรุปที่เห็นคือตัวเลขบวก แต่ความรู้สึกติดลบ คนไทยไม่ได้สนใจตัวเลขจีดีพีมากนัก แต่สิ่งที่รู้สึกทุกวันคือ เงินในกระเป๋าไม่พอใช้ หนี้สินพอกพูน ค่าใช้จ่ายสูง แต่รายได้ไม่โต เศรษฐกิจไทยปีนี้อาจขยายตัวได้ แต่หากยังโตต่ำเพียง 2% ก็ไม่ต่างอะไรกับ “ย่ำอยู่กับที่” ในขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านกำลังวิ่งแซงไปข้างหน้า 

นี่คือเสียงเตือนว่า หากไม่ปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจไทยอย่างจริงจัง เราอาจติดกับดักการโตต่ำถาวร และสูญเสียขีดความสามารถในการแข่งขันในเวทีโลก แล้วการเมืองที่อ่อนแอขนาดนี้ ถามว่า ใครล่ะที่จะเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงไปสู่การปรับโครงสร้างเศรษฐกิจไทย เห็นพูดกันเยอะ แต่ยังมองไม่เห็นเจ้าภาพ

ติดตามข้อมูลด้านเศรษฐกิจและนโยบายรัฐบาล กับ ThairathMoney ได้ที่ https://www.thairath.co.th/money/economics/thailand_econ

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้  https://www.facebook.com/ThairathMoney