
ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า หรือที่นักลงทุนเรียกกันติดปากว่า TFEX ถูกจัดตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นศูนย์กลางการซื้อขายตราสารอนุพันธ์ โดยสินค้าที่สามารถซื้อขายได้แบ่งออกเป็น 2 ประเภทด้วยกันคือ
สำหรับผู้ที่มีประสบการณ์ใน TFEX คงคุ้นเคยกับ Futures เป็นอย่างดีอยู่แล้ว ดังนั้น ผู้เขียนจะขอเน้นถึงเรื่อง Options เป็นหลัก เพราะคิดว่านักลงทุนหลาย ๆ ท่านน่าจะยังไม่คุ้นเคยกัน
Options คือ ตราสารที่ให้สิทธิแก่ผู้ซื้อ แต่ไม่ใช่ภาระผูกพันในการซื้อหรือขายสินทรัพย์อ้างอิง ภายในระยะเวลาและราคาที่กำหนด โดยผู้ที่ซื้อ (Long) Options สามารถเลือกที่จะใช้สิทธิหรือไม่ก็ได้ ตรงข้ามกับผู้ขาย (Short) ที่มีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามถ้าผู้ซื้อต้องการใช้สิทธิ ซึ่งการจะได้มาในสิทธินั้นผู้ Long Options จะต้องจ่ายค่าพรีเมียมให้กับผู้ขาย
สำหรับสิทธิของ Options นั้นจะมีอยู่ด้วยกัน 2 แบบ คือ สิทธิในการซื้อ (Call Options) และสิทธิในการขาย (Put Options) ขณะที่ปัจจุบัน TFEX เปิดให้มีการซื้อขาย Options ที่อ้างอิงเฉพาะ SET50 Index และเป็นแบบ European (สามารถใช้สิทธิได้ ณ วันสุดท้ายเท่านั้น)
สำหรับ Options ที่เปิดซื้อขายใน TFEX จะมีสัญลักษณ์สัญญา ดังนี้
จากสัญลักษณ์สัญญาของ Options ข้างต้นจะเห็นได้ว่าในส่วนแรก S50M25 นั้นจะเหมือนกับสัญลักษณ์สัญญาของ SET50 Index Futures แต่จะมีส่วนที่เพิ่มขึ้นมาต่อท้ายคือ สิทธิของ Options (C = สิทธิในการซื้อ, P = สิทธิในการขาย) และตามด้วยราคาใช้สิทธิ (Strike Price)
ดังนั้น S50M25C750 จะหมายถึง Options ที่มีสินค้าอ้างอิงคือ SET50 Index หมดอายุเดือน มิ.ย. ปี 2025 โดยเป็นสิทธิในการซื้อที่ราคา 750 จุด ต่อไปมาดูกันว่าการเทรด Options รูปแบบพื้นฐานที่ไม่ซับซ้อนนั้น มีรูปแบบอะไรกันบ้างและแต่ละรูปแบบเหมาะกับคาดการณ์แนวโน้มสินค้าอ้างอิงแบบไหนกัน
การซื้อขาย Options พื้นฐานมี 4 รูปแบบ คือ
จากกราฟแสดงกำไร/ขาดทุนข้างต้นจะเห็นได้ว่ากรณีที่ Long Options ไม่ว่าจะเป็นการ Long Call หรือ Long Put จะมีความเสี่ยงจำกัด เนื่องจากผลขาดทุนสูงสุดจะเท่ากับค่าพรีเมียมที่ได้จ่ายไป ในส่วนของผลตอบแทนพบว่าถ้าราคาสินค้าอ้างอิงปรับตัวขึ้นหรือลงแรงมีโอกาสได้ผลตอบแทนไม่จำกัด ตรงข้ามกับนักลงทุนที่ Short Options มีความเสี่ยงสูง ถ้าราคาสินค้าอ้างอิงมีการเหวี่ยงขึ้นหรือลงแรง จะทำให้เกิดผลขาดทุนเป็นจำนวนมาก ขณะที่ผลตอบแทนสูงสุดที่ได้จำกัดแค่ค่าพรีเมียมรับ จึงส่งผลให้นักลงทุนที่ Long Options ไม่ต้องวางเงินหลักประกันเหมือนกับการเทรด Futures แต่นักลงทุนที่ Short Options จะถูกเรียกเงินหลักประกันและมีโอกาสถูกเรียกเงินหลักประกันเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าสถานะที่ถือครองมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น
มาถึงช่วงท้ายของบทความผู้อ่านทุก ๆ ท่านน่าจะเข้าใจตราสารที่เรียกว่า Options และสัญลักษณ์สัญญาที่ใช้ซื้อขายใน TFEX รวมถึงการซื้อขาย Options พื้นฐานแต่ละรูปแบบ เพราะความเข้าใจดังกล่าวถือเป็นก้าวแรกสำหรับนักลงทุนที่เริ่มสนใจเทรด Options โดยบทความในตอนหน้าผู้เขียนจะมาลงลึกถึงวิธีการเลือก Options กับนักลงทุนมือใหม่ที่อยากก้าวต่อไปในการเทรด Options เนื่องจากว่า Options ใน TFEX มีให้เลือกกันหลาย Strike Price และแต่ละ Strike Price ก็มีราคาของสิทธิแต่ละแบบที่แตกต่างกันอีกด้วย
อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่
https://www.thairath.co.th/money/investment
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้
https://www.facebook.com/ThairathMoney