โลกเข้าสู่ยุคสมัย ทรัมป์ 2.0 จับตา 6 เดือนอันตราย หลังสหรัฐฯ คือ ตลาดส่งออกอันดับ 1 ของไทย

Economics

World Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

โลกเข้าสู่ยุคสมัย ทรัมป์ 2.0 จับตา 6 เดือนอันตราย หลังสหรัฐฯ คือ ตลาดส่งออกอันดับ 1 ของไทย

Date Time: 21 ม.ค. 2568 10:03 น.

Video

จากสุราชุมชน สู่ Soft Power สร้างเศรษฐกิจท้องถิ่น สร้างรายได้ให้ประเทศ

Summary

  • โลกเข้าสู่ยุคสมัย ทรัมป์ 2.0 ธุรกิจไทยเสี่ยงกระทบ Trade war รอบใหม่ จับตา 6 เดือนอันตราย สหรัฐฯ ตลาดส่งออกอันดับ 1 ของไทย

Latest


เข้าสู่ยุคสมัย ทรัมป์ 2.0 อย่างเป็นทางการแล้ว หลังจากเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา “โดนัลด์ ทรัมป์” เข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 47 ต่อจาก “โจ ไบเดน”

โดยนี่ถูกหยิบยกจากหลายฝ่ายว่าเป็นจุดสูงสุดของการกลับมารับตำแหน่งทางการเมืองอย่างที่ไม่เคยเกิดมาก่อน

ขณะ “โดนัลด์ ทรัมป์" กล่าวสุนทรพจน์ ลั่น! สหรัฐฯ ในสมัยที่ 2 ของตนเองจะเป็น “ยุคทอง” พร้อมสัญญากับชาวอเมริกันว่าจะจัดการกับความชั่วร้าย การทุจริตในระบบการเมือง ตลอดจนปกป้องอธิปไตย พัฒนาเศรษฐกิจ สนับสนุนพลังงาน ก๊าซ น้ำมัน เพื่อสร้างความมั่นคงและมั่งคั่ง รุ่งโรจน์ไปพร้อมกัน

หากแต่ไฮไลต์สำคัญของสุนทรพจน์ราว 30 นาที “ทรัมป์” ยังย้ำถึงการประกาศให้สหรัฐฯ เป็นหนึ่งในทุกด้าน ทวงคืนตำแหน่งชาติมหาอำนาจผู้ทรงอิทธิพลของโลก

ตอกย้ำสหรัฐฯ ภายใต้การบริหารของ “โดนัลด์ ทรัมป์” จะไม่มีคำว่าอ่อนข้อ และจะยิ่งใหญ่กว่าที่เคย

จับตา นโยบายทรัมป์ พลิกกระดาน “การค้าโลก”

สำหรับความสำคัญนั้น สหรัฐฯ เป็นตลาดส่งออกอันดับ 1 ของไทย มีสัดส่วนราว 18% ของมูลค่าส่งออกทั้งหมด

ข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์ ปี 2567 มีมูลค่า 54,956.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่การนำเข้า สหรัฐฯ ก็เป็นแหล่งนำเข้าอันดับ 4 ของไทย มีสัดส่วนราว 6% ของมูลค่านำเข้าทั้งหมด หรือมีมูลค่า 19,528.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ส่งผลให้ไทยอยู่ในฐานะประเทศที่มีการเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ อยู่อันดับที่ 12 ของโลก และคาดว่าจะเสี่ยงได้รับผลกระทบโดยตรงกับนโยบายทางการค้าที่ “โดนัลด์ ทรัมป์” จะบังคับใช้อย่างเข้มข้น เพื่อลดบทบาทของจีนในตลาดโลก

นั่นทำให้ผู้ประกอบการไทยจำเป็นต้องเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ จากคาดการณ์ที่ว่าความตึงเครียดทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ จะรุนแรงมากขึ้น

เนื่องจากสหรัฐฯ ประกาศนโยบายการปรับขึ้นอัตราภาษีนำเข้าจากจีน แคนาดา เม็กซิโก และประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก การปกป้องอุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศ ตลอดจนการดึงการลงทุนกลับไปยังสหรัฐฯ เพื่อสร้างการจ้างงานภายในประเทศ

ขณะเดียวกัน สหรัฐฯ เองก็ได้จับตาประเทศที่มีกลุ่มทุนจีนเข้าไปลงทุนเพื่อตั้งฐานการผลิต เพราะต้องการเลี่ยงสงครามการค้าและมาตรการทางภาษีจากสหรัฐฯ โดยไทยเป็นหนึ่งในประเทศดังกล่าว

ทั้งนี้ มาตรการทางการค้าของสหรัฐฯ จะออกมาให้เห็นชัดเจนมากขึ้น ภายหลังจากที่มีการแต่งตั้งคณะผู้แทนการค้าสหรัฐอเมริกา (The United States Trade Representative) หรือ USTR เรียบร้อย

โดยมีรายงานว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของไทยมีแผนที่จะนำคณะผู้บริหารเยือนสหรัฐอเมริกา เพื่อหารือกับผู้บริหารระดับสูงของสหรัฐฯ ชุดใหม่ในเดือนกุมภาพันธ์ เพื่อการเจรจาขอยกเว้นการขึ้นภาษีสินค้าจากไทย

มาตรการทางภาษีใหม่ กระทบเศรษฐกิจไทย

ด้านข้อมูลวิเคราะห์ของ ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS ธนาคารกรุงไทย เผยว่า 6 เดือนจากนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญในการเตรียมแผนรับมือของผู้ประกอบการไทย ที่มาตรการกีดกันทางภาษีรอบใหม่จะชัดเจนขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2568

มาตรการการค้าใหม่ 2 นโยบาย

1. อัตราภาษีศุลกากรพื้นฐานทั่วไป (Universal Baseline Tariff)

2. ภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs)

โดยธุรกิจไทยที่มีการเกินดุลกับสหรัฐฯ สูงเสี่ยงได้รับผลกระทบ ได้แก่ กลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม ที่อาจมีการขึ้นภาษีนำเข้าสูงถึง 40%-60%

เช่นเดียวกับกลุ่มสินค้าที่มีการขยายตัวรวดเร็ว เช่น Electrical machines, Solar Panels และ Air Conditioners แม้จะมีการเกินดุลไม่มากนัก แต่มีอัตราการเติบโตสูง

ทั้งนี้ สินค้ากลุ่ม Solar Panels เป็นกลุ่มที่อยู่ในข่ายได้รับผลกระทบจากความกังวลด้าน trade circumvention สินค้ากลุ่มนี้คิดเป็นมูลค่า 4 พันล้าน USD หรือ 8% ของการส่งออกไทยไปยังสหรัฐฯ ด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ตามความเสี่ยงที่ใกล้ชิดประชาชนมากที่สุด คือ โลกกำลังเผชิญความไม่แน่นอนเชิงนโยบายของมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ ระหว่างจีนและสหรัฐ ที่ใช้สงครามการค้าเป็นอาวุธในสนามรบ สร้างความท้าทายให้กับทิศทางเศรษฐกิจของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก รวมถึง “เศรษฐกิจไทย” ด้วย

เพราะภาคการส่งออกกำลังอยู่ภายใต้พายุลูกใหม่และอาจใหญ่กว่าเดิม จากความเสี่ยงสงครามการค้าและการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น จากปัจจัย oversupply ในจีนที่กระทบการส่งออกในหลายธุรกิจ

สอดคล้องกับไอเอ็มเอฟ เตือนถึงความเสี่ยงของเศรษฐกิจโลก จากนโยบายการปรับขึ้นอัตราภาษีที่อาจนำไปสู่การลดลงของการลงทุน อีกทั้งธนาคารโลกยังชี้ว่า สงครามการค้าที่ก่อโดยสหรัฐฯ จะทำให้การค้าโลกและกิจกรรมทางเศรษฐกิจสะดุด การขยายตัวของโลกในปี 2568 จะชะลอลงอยู่ที่ 3.1% เท่านั้น ซึ่งนี่อาจทำให้การส่งออกของไทยขยายตัวลดลง และกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศด้วย

ติดตามข้อมูลด้านเศรษฐกิจและนโยบายรัฐบาล กับ ThairathMoney ได้ที่ 

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้  https://www.facebook.com/ThairathMoney


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ