Thairath OnlineThairath PlusThairath SportThairath TVMIRROR
InvestmentPersonal FinanceEconomicsBusiness & MarketingTech & InnovationSustainabilityExperts PoolVideosPR News
บัตรคนจนหนีไม่พ้นยังมีโกง  แบงก์ชาติประเมินปั่นจีดีพีแทบไม่กระเตื้อง

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

บัตรคนจนหนีไม่พ้นยังมีโกง แบงก์ชาติประเมินปั่นจีดีพีแทบไม่กระเตื้อง

Date Time: 7 ต.ค. 2560 05:01 น.

Summary

  • กรมบัญชีกลางเผยจับร้านธงฟ้าโกงโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้ ใช้บัตรรูดเอาเงินโดยไม่ได้ซื้อสินค้า ตัดสิทธิ์ทันทีทั้งร้านค้าและคนใช้บัตร ขณะที่ ธปท.ประเมินบัตรคนจนมีผลแค่เพิ่มกำลังใจใช้จ่ายของผู้มีรายได้น้อย

Latest

พระสงฆ์เข้าร่วมดิจิทัลวอลเล็ตได้ ร้านค้าที่เคยลงทะเบียนกับรัฐ แค่กดปุ่มอัปเดตข้อมูล

กรมบัญชีกลางเผยจับร้านธงฟ้าโกงโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้ ใช้บัตรรูดเอาเงินโดยไม่ได้ซื้อสินค้า ตัดสิทธิ์ทันทีทั้งร้านค้าและคนใช้บัตร ขณะที่ ธปท.ประเมินบัตรคนจนมีผลแค่เพิ่มกำลังใจใช้จ่ายของผู้มีรายได้น้อย แต่แทบจะไม่มีผลช่วยดันจีดีพีประเทศให้ขยับขึ้น

นางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า หลังจากที่กรมบัญชีกลางเปิดให้ประชาชนที่ลงทะเบียนโครงการสวัสดิการแห่งรัฐรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้ ตั้งแต่วันที่ 21 ก.ย. ที่ผ่านมา ล่าสุด เมื่อวันที่ 5 ต.ค. มีประชาชนมารับบัตรไปแล้ว 7 ล้านใบ หรือ 70% จากทั้งหมด 10 ล้านใบ ในพื้นที่ 70 จังหวัดทั่วประเทศ โดยมียอดประชาชนมารับบัตรเฉลี่ยวันละ 500,000 ใบ จากเดิมวันละ 100,000 ใบ แสดงให้เห็นว่า ประชาชนที่ลงทะเบียนให้ความสนใจและมีกระแสตอบรับจากโครงการดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น โดยคาดว่า ภายในสัปดาห์หน้า ประชาชนจะมารับบัตรสวัสดิการได้ทั้งหมด

สำหรับวันที่ 17 ต.ค.นี้ ซึ่งกรมบัญชีกลางจะเปิดให้ประชาชนในพื้นกรุงเทพฯและปริมณฑลอีก 6 จังหวัด รวมเป็น 7 จังหวัด เช่น พระนครศรีอยุธยา นนทบุรี และปทุมธานี เป็นต้น ยอดรวมประมาณ 1.3 ล้านคน หรือ 1.3 ล้านใบ รับบัตรสวัสดิการได้ และเริ่มใช้บัตรกับรถเมล์ร้อนนั้น คงต้องดูว่าจะมีปัญหาหรือไม่

“หลังจากเปิดใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ กับร้านธงฟ้าประชารัฐ ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา กรมบัญชีกลางและกระทรวงพาณิชย์ตรวจพบการทุจริตบ้างแล้ว แต่ก็พยายามควบคุมไม่ให้มีการทุจริตเกิดขึ้น โดยพบว่า ร้านธงฟ้าฯที่ จ.มหาสารคาม จำนวน 1 แห่ง มีการเบิกเงินสดจากวงเงินที่ได้รับในบัตรโดยไม่ได้ซื้อสินค้า ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะถอนร้านดังกล่าวออกจากร้านธงฟ้าฯและจะถูกยึดเครื่องรับชำระเงินอัตโนมัติ หรืออีดีซี ส่วนประชาชนที่ร่วมกระทำความผิดจะถูกจะตัดสิทธิ์ในการใช้บัตรสวัสดิการทันที”

นอกจากนี้ ยังพบร้านธงฟ้าฯบางรายที่ยังไม่มีเครื่องอีดีซี จึงไม่สามารถใช้วงเงินในบัตรสวัสดิการได้ แต่ทางร้านธงฟ้าฯได้นำสินค้าไปมอบให้แก่ผู้ถือบัตรสวัสดิการฯล่วงหน้าไปก่อน โดยยึดบัตรสวัสดิการเอาไว้ เพื่อรอให้ธนาคารกรุงไทยติดตั้งเครื่องอีดีซีให้แล้วเสร็จ จึงนำมารูดในภายหลังนั้น ล่าสุดได้ตัดสิทธิ์ร้านธงฟ้าฯไปแล้ว 2 แห่ง ส่วนประชาชนที่ถูกร้านธงฟ้าฯยึดบัตรสวัสดิการไปประมาณ 1,500 รายนั้น กรมบัญชีกลาง ได้นำบัตรออกมาจากร้านธงฟ้าฯหมดเรียบร้อยแล้วและจะทยอยส่งคืนให้แก่เจ้าของบัตรสวัสดิการ ในภายหลัง โดยจะไม่ตัดสิทธิ์ หรือห้ามการใช้บัตรสวัสดิการแต่อย่างใด

ด้านนายจาตุรงค์ จันทรังษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สายนโยบาย การเงิน กล่าวถึงการออกรายงานนโยบายการเงินของ ธปท.ว่า ในการปรับขึ้นประมาณการเศรษฐกิจไทยในปี 2560 ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ผ่านมานั้น มาจากการส่งออกทั้งภาคการค้าและภาคบริการ หรือการท่องเที่ยวที่ขยายตัวดีขึ้น อย่างไรก็ตามการบริโภคภาคเอกชนยังไม่เข้มแข็งมากนักในระยะข้างหน้า โดยเฉพาะกำลังซื้อของกลุ่มผู้มีรายได้น้อยที่ยังไม่ฟื้นตัวชัดเจน เนื่องจากรายได้และการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นยังจำกัดอยู่ในบางภาคอุตสาหกรรม ส่วนหนึ่งมาจากการใช้เครื่องจักรทดแทนแรงงานที่ไม่มีฝีมือเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง เป็นปัจจัยถ่วงการบริโภค ขณะที่รายได้ของเกษตรกรแม้จะดีขึ้น แต่ยังไม่ดีเท่าช่วงก่อนหน้า

“ในส่วนโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐนั้น ธปท.มองว่า ถึงจะมีเม็ดเงินออกมาจำนวนมาก แต่เป็นการลงในระบบเศรษฐกิจแบบกระจายช่วงเวลา ทำให้มีผลต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวมไม่มาก ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) เพิ่มขึ้นจากโครงการนี้ไม่ถึง 0.1% แต่จะดีตรงช่วยเพิ่มกำลังใจในการใช้จ่ายของผู้มีรายได้น้อย โดยเฉพาะในต่างจังหวัด ขณะที่โครงการที่ธปท.ประเมินว่า มีผลต่อจีดีพีมากกว่าคือเม็ดเงินจากโครงการ9101 ตามรอยเท้าพ่อ วงเงินประมาณ 20,000 ล้านบาท ที่จะลงไปในระบบเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสที่ 3 และ 4 ปีนี้ ถ้าเป็นไปได้ด้วยดีจะช่วยเพิ่มจีดีพีได้ 0.1%”

ขณะที่นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยระหว่างการลงพื้นที่ จ.น่าน เพื่อติดตามการใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐของประชาชนในร้านธงฟ้าประชารัฐว่า ประชาชนส่วนใหญ่พอใจในโครงการของรัฐบาลเป็นอย่างมาก แต่อาจจะต้องใช้เวลาในการให้บริการ เนื่องจากประชาชนเข้ามาใช้บริการพร้อมกัน เบื้องต้นพบว่าประชาชนเข้ามาใช้บริการประมาณ 300,000 คนต่อวัน มูลค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 100 ล้านบาทต่อวัน

สำหรับกรณีที่ประชาชนเรียกร้องต้องการให้รัฐบาลแจกเป็นเงินสดนั้น ขอชี้แจงว่า โครงการนี้เป็นโครงการสวัสดิการ ไม่ใช่โครงการแจกเงินโดยต้องการช่วยเหลือประชาชน ซึ่งวิธีการดังกล่าวมองว่ามีความเหมาะสมที่สุด และจากการสำรวจหากพบว่าปริมาณผู้ใช้บริการมีจำนวนมากในบางพื้นที่และเครื่องรูดบัตรอีดีซี ไม่เพียงพอ ก็พร้อมที่จะประสานและหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการติดตั้งเครื่องรูดบัตรเพิ่มเติม เพื่อความสะดวกกับประชาชน.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ