'พาณิชย์' ดันไทยเป็นฮับด้านเกษตรอินทรีย์ในภูมิภาค เตรียมชงตั้ง 'สหพันธ์เกษตรอินทรีย์อาเซียน' หวังใช้เป็นเวทีแลกเปลี่ยนความรู้ด้านการผลิตและการตลาดระหว่างกัน พร้อมเดินหน้าสร้างเครือข่ายเกษตรอินทรีย์ในกลุ่ม CLMVT
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงได้เดินหน้าผลักดันให้ไทยเป็นฐานการผลิตและการจำหน่ายสินค้าเกษตรอินทรีย์ (ฮับ) ด้านเกษตรอินทรีย์ในภูมิภาค โดยที่ผ่านมา ได้ผลักดันให้เกษตรกรและผู้ประกอบการเกษตรอินทรีย์มีความเข้มแข็ง จนสามารถผลิตสินค้าป้อนเข้าสู่ตลาดทั้งในและผลักดันส่งออกได้เพิ่มขึ้น และจากนี้ไป กระทรวง จะเน้นการขยายความร่วมมือระหว่างเอกชนไทยกับเอกชนในอาเซียนให้มากขึ้น
ทั้งนี้ กระทรวง มีแนวคิดที่จะผลักดันให้มีการจัดตั้งสหพันธ์เกษตรอินทรีย์อาเซียน (ASEAN Organic Federation) ขึ้นเป็นครั้งแรก เพื่อเป็นเวทีสร้างความรู้ ความเข้าใจ และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านการผลิตและการตลาดเกษตรอินทรีย์ระหว่างผู้ผลิตและผู้ประกอบการอาเซียน อีกทั้ง ยังเป็นการสร้างความเข้มแข็งและความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของผู้ผลิตและผู้ประกอบการในอาเซียนอีกทางหนึ่งด้วย
“จะใช้การจัดงาน Organic Natural Expo 2017 ที่กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27-30 ก.ค. 60 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ผลักดันการจัดตั้งสหพันธ์เกษตรอินทรีย์อาเซียน ซึ่งถือเป็นโอกาสอันดีที่ผู้เข้าร่วมการประชุมจะได้มีโอกาสเห็นศักยภาพของไทยในการที่จะเป็นผู้นำด้านเกษตรอินทรีย์ในภูมิภาคนี้”
สำหรับการสร้างเครือข่ายความสัมพันธ์ระหว่างเกษตรกรอินทรีย์ของไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม ในช่วงเดือน มิ.ย.-ก.ค. 60 กระทรวงจะเป็นเจ้าภาพจัดโครงการสร้างเครือข่ายเกษตรกรอินทรีย์ในกลุ่มประเทศ CLMVT หรือ CLMVT Organic Farmer Network Development Program ขึ้นเป็นครั้งแรก เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเกษตรอินทรีย์ของประเทศในกลุ่ม CLMVT ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาพรวมเกษตรอินทรีย์ของไทยในอนาคต
โดยตามแผนการสร้างเครือข่าย จะเชิญเกษตรกรที่ทำเกษตรอินทรีย์เดิม หรือมีแนวคิดที่จะทำเกษตรอินทรีย์ในกลุ่มประเทศ CLMVT เดินทางมายังประเทศไทยเพื่อเรียนรู้ และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการทำเกษตรอินทรีย์ระหว่างกันเป็นเวลา 1 เดือน โดยมีเกษตรกรของทั้ง 5 ประเทศ จำนวน 10 ราย ซึ่งนอกจากจะได้เรียนรู้จากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านเกษตรอินทรีย์แล้ว ผู้แทนเกษตรกรที่มาเข้าร่วมกิจกรรม จะได้ทำหน้าที่เป็นวิทยากรถ่ายทอดประสบการณ์การทำเกษตรอินทรีย์ให้กับเพื่อนร่วมชั้นเรียน และยังจะมีการลงมือปฏิบัติในแปลงสาธิต การเรียนรู้ในเรื่องของการตลาด และระบบโลจิสติกส์เกษตรอินทรีย์อีกด้วย
ส่วนการจัดงาน Organic Natural Expo 2017 ในปีนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่ไทยได้จัดงานร่วมกับผู้จัดงานเกษตรอินทรีย์ระดับโลกของเยอรมนี คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 45,000 ราย เนื่องมาจากกระแสรักสุขภาพที่กำลังมาแรง ขณะที่ปี 59 มีผู้สนใจเข้าร่วมชมและซื้อสินค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติในงานกว่า 41,215 ราย มูลค่าการซื้อขายกว่า 28 ล้านบาท และมีผู้เข้าร่วมจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าอินทรีย์กว่า 300 คูหา