ภารกิจใหญ่ของ ธอส.

กระทรวงการคลังในยุคที่คุณลวรณ แสงสนิท เป็นปลัดกระทรวงการคลัง กลับมามีบทบาทสำคัญกับรัฐบาล และสังคมไทยอย่างจริงจังอีกครั้ง...ก็ตรงที่องค์กรภายใต้การกำกับดูแล เข้ามาร่วมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในการตอบสนองความต้องการของสังคมในภาวะยากลำบากจากเศรษฐกิจฝืดเคือง หนี้ครัวเรือน โดยเฉพาะหนี้บ้านสูงโด่ง ขณะที่รายได้และแหล่งทุนมีไม่เพียงพอ

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เป็นหนึ่งในองค์กรสำคัญที่ทำคลอดมาตรการต่างๆ ออกมาสอดรับกับนโยบายของกระทรวง และรัฐบาลในทันทีโดยไม่ต้องมีการสั่งการใดๆซ้ำอีก

ช่วงเวลานับแต่ปี 2566-30 พ.ย.2568 หรือตลอด 2 ปีเต็ม ธอส.ภายใต้การนำองค์กรของ คุณกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ สามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ที่ทำให้คนไทยมีบ้านเพิ่มขึ้นได้ 392,000 บัญชี

ในเวลาเดียวกันก็ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจผ่านสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษได้รวมกว่า 460,000 ล้านบาท ควบคู่ไปกับการสร้างวินัยการเงินให้คนไทยผ่านการเปิดบัญชีออมเงินกว่า 220,000 ราย และช่วยลูกค้ารักษาบ้านไว้ได้กว่า 590,000 บัญชี

เอาจริงๆที่ผ่านมาเรามักไม่ค่อยคิดถึงความพยายามในการรักษาบ้านให้แก่ผู้กู้อย่างเป็นรูปธรรมกันสักเท่าไหร่ นั่นจึงทำให้การเป็นหนี้บ้านกลายเป็นภาระหนักอึ้งของทั้งฝ่ายสถาบันการเงิน ลูกหนี้ ตลอดไปจนถึงภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศ

แต่ ธอส.ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการปล่อยสินเชื่อบ้าน สามารถช่วยลูกค้ารักษาบ้านไว้ได้ก็โดยใช้มาตรการแก้ไขหนี้ภาคครัวเรือนที่สามารถปฏิบัติได้จริง ภายใต้การปรับลดอัตราดอกเบี้ย และยืดระยะเวลาการผ่อนชำระเงินงวดออกไปได้นานถึง 80–85 ปี จากเดิมที่เคยยืดให้นานไม่เกิน 70–75 ปีในช่วงปี 2567

พร้อมวางรากฐานด้านเทคโนโลยีขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืนในทุกมิติผ่านโครงการด้าน CSR...สร้าง และซ่อมแซมที่อยู่อาศัยให้แก่ผู้ด้อยโอกาสอีก 5,120 หลัง

ธอส.จึงเป็นผู้นำอันดับ 1 ในการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยทั้งระบบ โดยในปี 2568 ธอส.ปรับเป้าหมายในการปล่อยสินเชื่อใหม่ถึง 241,780 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน เพื่อตอบสนองนโยบายเร่งด่วนของ รองนายกฯ และ รมว.คลัง เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ในการร่วมแก้ปัญหาเศรษฐกิจ Quick Big Win ธอส.ได้จัดทำแผนแก้ไขหนี้ครัวเรือนผ่านมาตรการด้านต่างๆสำหรับลูกค้ากลุ่มเฝ้าระวัง รวมทั้งการเยียวยา และฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัยในภาคใต้ เป็นการบรรเทาความเดือดร้อน ซึ่งครอบคลุมการพักชำระหนี้และการกู้เพิ่มเพื่อซื้ออุปกรณ์ หรือซ่อมแซมอาคารที่อยู่อาศัยด้วย

โดยสรุป ธอส.ให้สินเชื่อใหม่แก่คนไทยมีบ้านได้ 215,130 ล้านบาท หรือ 200,848 บัญชี คิดเป็น 89% ของผู้ต้องการบ้าน และในจำนวนนี้เป็นสินเชื่อผู้มีรายได้น้อย-ปานกลางวงเงินกู้ไม่เกิน 3 ล้านบาท สูงถึง 112,143 ราย เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 17.9%

สำคัญคือตลอด 2 ปีมานี้ ธอส.ปล่อยสินเชื่อใหม่ที่ทำให้คนไทยมีบ้านเพิ่มขึ้น 392,000 บัญชี และขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้กว่า 460,000 ล้านบาท

เหล่านี้เป็นผลงานที่คุณกมลภพ และพนักงานตั้งหน้าตั้งตาทำกันมา แต่น่าเสียดายที่ปีนี้ ชื่อของ ธอส.ตกหล่นไป จึงไม่ได้รับรางวัลแบงก์รัฐดีเด่นกับเขา...

น่าเสียดาย แต่ก็ไม่เป็นไร ขอให้สู้กันต่อไป!

มิสไฟน์

คลิกอ่านคอลัมน์ “กระจก 8 หน้า” เพิ่มเติม