สุญญากาศการเมืองฉุดเศรษฐกิจ เอกชนเข้าใจยุบสภาแต่เร่งจัดเลือกตั้งเคลียร์งานค้างท่อ

Economics

Thai Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

สุญญากาศการเมืองฉุดเศรษฐกิจ เอกชนเข้าใจยุบสภาแต่เร่งจัดเลือกตั้งเคลียร์งานค้างท่อ

Date Time: 13 ธ.ค. 2568 07:40 น.

Summary

ภาคเอกชนจับตาสถานการณ์การเมืองหลังยุบสภา หอการค้าไทยระบุเข้าใจเหตุผลการตัดสินใจ พร้อมเรียกร้องให้จัดเลือกตั้งตามกรอบกฎหมายโดยเร็ว ขณะที่ส.อ.ท.ไม่ตื่นตระหนกต่อการยุบสภา แต่กังวลรัฐบาลรักษาการมีข้อจำกัดในการตัดสินใจ อาจนำไปสู่ภาวะ “เกียร์ว่าง” และกระทบการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

Latest

ยุบสภา สะเทือนนโยบายหลักต้องรอรัฐบาลใหม่ตัดสินใจ เผยคนละครึ่งพลัส เฟส 2 ฝันค้าง

นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยกรณีการยุบสภาว่า หอการค้าไทยระบุเข้าใจเหตุผลทางการเมืองที่นำไปสู่การยุบสภา ท่ามกลางความผันผวนทั้งเศรษฐกิจโลก ภูมิรัฐศาสตร์และปัญหาชายแดน แต่ย้ำต้องเร่งจัดการเลือกตั้งภายในกรอบกฎหมาย เพื่อให้ประเทศมีรัฐบาลชุดใหม่ที่มีอำนาจเต็มโดยเร็ว เหตุยังมีวาระเศรษฐกิจค้างอยู่จำนวนมาก ทั้งกฎหมายสำคัญ การเจรจาภาษีกับสหรัฐฯ และการเจรจาความตกลงการค้าเสรี (FTA) พร้อมฝากรัฐบาลรักษาการเดินหน้ามาตรการช่วยเหลือภาคใต้และดูแลชายแดนโดยไม่ให้สะดุด แม้จะมีข้อจำกัดด้านอำนาจตามกฎหมายก็ตาม


นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า การยุบสภาครั้งนี้ ไม่เหนือความคาดหมาย เพราะนายกรัฐมนตรีได้ส่งสัญญาณมาก่อนแล้ว แต่ยอมรับว่าประหลาดใจต่อการที่พรรคประชาชน เป็นฝ่ายยื่นนำอภิปราย กดดันจนต้องยุบสภา ทั้งที่ก่อนหน้าเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยจะเป็นฝ่ายขยับก่อน และเตือนว่าช่วงรัฐบาลรักษาการ 60 วันต่อจากนี้ มีความเสี่ยงต่อการเร่งขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจปลายปี โดยเฉพาะมาตรการ Quick Big Win ที่ถูกวางไว้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจหลังจีดีพีไตรมาส 3 โตเพียง 1.2% ต่ำกว่าคาด พร้อมเตือนเกียร์ว่างข้าราชการ มักเกิดขึ้นทุกครั้งที่เข้าสู่ช่วงสุญญากาศทางการเมือง จึงฝากปลัดกระทรวงต่าง ๆ เร่งเดินงานที่ค้างอยู่ให้ต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้เศรษฐกิจชะงักก่อนเข้าสู่รัฐบาลใหม่


ด้านนายอดิษฐ์ ชัยรัตนานนท์ เลขาธิการ สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) แม้การยุบสภาเป็นไปตามกลไกประชาธิปไตย แต่จะทำให้งบประมาณปี 2570 ล่าช้าและกระทบการเบิกจ่ายช่วงต้นปีงบประมาณ ขณะเดียวกัน ความตึงเครียดชายแดนส่งผลต่อมุมมองด้านความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะกลุ่มที่เดินทางแบบอิสระ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ต้องเร่งสร้างความมั่นใจว่าแหล่งท่องเที่ยวหลักยังเดินทางได้ตามปกติ ส่วนข้อเสนอของภาคเอกชนท่องเที่ยวที่ยื่นต่อรัฐบาลก่อนยุบสภา เช่น มาตรการกระตุ้นตลาดและการของบกลางเพื่อเร่งผลักดัน คาดว่าจะต้องชะลอออกไป เนื่องจากรัฐบาลรักษาการไม่สามารถอนุมัติแผนงานใหม่ที่ผูกพันกับรัฐบาลชุดถัดไปได้


ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่า การยุบสภาจะกดดันเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 1/2569 ให้ชะลอลงเล็กน้อย จากการหยุดชะงักของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลายโครงการ และข้อจำกัดของรัฐบาลรักษาการที่ไม่สามารถอนุมัติงานใหม่หรือโครงการผูกพันได้ อย่างไรก็ตาม ภาพรวมทั้งปีไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิม โดยยังคงประมาณการเติบโตทางเศรษฐกิจปี 2569 ที่ 1.6%


นอกจากนี้ให้จับตาความเสี่ยงช่วงเปลี่ยนผ่านหลังเลือกตั้ง ทั้งประเด็นความต่อเนื่องของนโยบาย การเบิกจ่ายงบประมาณ และความเชื่อมั่นของนักลงทุน ซึ่งอาจทำให้ภาคธุรกิจเข้าสู่ภาวะ wait-and-see ขณะที่ความล่าช้าในการจัดตั้งรัฐบาลผสมอาจกดดันการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) และสร้างความท้าทายต่อรัฐบาลชุดใหม่ในการขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจช่วงต้นปีหน้า


ส่วนนางพิทยา วรปัญญาสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แม้ความไม่แน่นอนทางการเมืองอาจกดดันความเชื่อมั่น แต่หวังว่าจะไม่เกิดสุญญากาศยืดเยื้อ และต้องการให้การเลือกตั้ง–ตั้งรัฐบาลใหม่เกิดขึ้นเร็วที่สุด เพื่อไม่ให้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสะดุดในช่วงเปลี่ยนผ่านปัจจัยที่น่ากังวลกว่าการเมืองคือเศรษฐกิจที่เติบโตต่ำ แต่เคทีซียังคงเป้าหมายปี 2569 เดิมไม่ปรับเป้าหมายเพราะเรื่องการเมือง


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ