“เชอรี” ค่ายจีนปักหมุดสู้ไม่ถอย ตลาดรถยนต์อีวีในไทยแข่งดุเดือดแน่!

Economics

Thai Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

“เชอรี” ค่ายจีนปักหมุดสู้ไม่ถอย ตลาดรถยนต์อีวีในไทยแข่งดุเดือดแน่!

Date Time: 20 ต.ค. 2568 07:42 น.

Summary

“เชอรี” ค่ายรถยนต์จีนเดินหน้าลงทุนในไทยต่อเนื่อง เหตุตลาดรถอีวีแนวโน้มเติบโต ผู้บริโภคไทยตื่นตัว มีความต้องการใช้รถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ชูบริการหลังการขาย ขยายศูนย์บริการต่อเนื่อง เชื่อปลายปีนี้ ตลาดรถยนต์อีวี แข่งเดือดทั้งราคาและประชันรถรุ่นใหม่ๆ

Latest

เช็กลิสต์ 5 เสาหลักกอบกู้เศรษฐกิจ Quick Big Win ของรัฐบาลอายุงาน 2 เดือนครึ่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่จากประเทศจีน เชอรี (CHERY) ได้เชิญสื่อมวลชนไทย ร่วมงาน “ CO-CREATE-DEFINE 2025 CHERY INTERNATIONAL USER SUMMIT” พร้อมเยี่ยมชมโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น V23 ณ เมืองอู๋หู (Wuhu) ประเทศจีน ซึ่งถือว่าเป็นเมืองของค่ายรถยนต์เชอรีอย่างแท้จริง เนื่องจากมีโรงงานผลิตรถยนต์เกือบทุกแบรนด์ภายใต้เชอรี อาทิ เชอรี, โอโมด้า (OMODA), เจคู (JAECOO) ซีพลัส (Cepas) และEXEED เป็นต้น โดยการผลิตรถยนต์ไฟฟ้านั้น เป็นไปตามแนวโน้มของโลก ที่ประชากรได้หันมาใส่ใจการรักษ์โลก การประหยัดน้ำมัน เมื่อถึงเวลาปรับเปลี่ยนรถยนต์ จึงหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า ทำให้เป็นโอกาสของค่ายรถยนต์อีวี ที่จะขยายการผลิตรถยนต์ โดยเฉพาะค่ายรถยนต์จากประเทศจีน ที่ได้ส่งออกไปทั่วโลก

นายจิม ลี ผู้อำนวยการค่ายรถยนต์เชอรี ประจำประเทศไทย กล่าวว่า การพาสื่อมวลชนไทย มาเยี่ยมชมโรงงานในครั้งนี้ เพื่อแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของค่ายเชอรีในการลงทุน และพัฒนาการผลิตรถยนต์อย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้รถยนต์ทั่วโลก ซึ่งเชอรี มีโรงงานผลิตรถยนต์กระจายอยู่ทั่วโลกกว่า 20 แห่ง เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งล่าสุดได้จดทะเบียนในตลาดหุ้นฮั่งเส็ง ฮ่องกง ถือว่าได้รับความสนใจจากนักลงทุนจำนวนมาก ขณะเดียวกันเชอรี ให้ความสำคัญกับการพัฒนาและวิจัยในอุตสาหกรรมยานยนต์อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างนวัตกรรมยานยนต์ และตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค อีกทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การเติบโตในระดับสากล

สำหรับประเทศไทยแล้ว เชอรี ได้ประกาศการลงทุนสร้างโรงงานผลิตรถไฟฟ้าในประเทศไทยไปแล้ว โดยโรงงานตั้งอยู่ที่อำเภอนิคมพัฒนา จังหวัดระยอง พื้นที่ 104 ไร่ ด้วยเงินลงทุน 5,000 ล้านบาท ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อป้อนตลาดในประเทศไทย กำลังการผลิต 50,000 คันต่อปี โดยโรงงานในประเทศไทยนั้น ได้เริ่มผลิตรถยนต์เชอรีป้อนตลาดประเทศไทยแล้วในขณะนี้ และหากในอนาคตความต้องการรถยนต์เชอรีเพิ่มขึ้น เชอรี ก็พร้อมขยายการลงทุนในไทยอย่างต่อเนื่อง แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพเศรษฐกิจของไทยด้วยเช่นกัน ซึ่งตามเป้าหมาย จะขยายกำลังการผลิตจาก 50,000 คัน เป็น 70,000-80,000 คัน ในปี 2571

ทั้งนี้ปัจจุบันเชอรี มีผู้แทนจำหน่าย (ดีลเลอร์) กระจายอยู่ทั่วประเทศ 33 แห่ง และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตามความต้องการของลูกค้า โดยเชอรี เน้นย้ำเกี่ยวกับการให้บริการหลังการขาย ที่ต้องดูแลเอาใจใส่ลูกค้า ถือเป็นหัวใจการให้บริการของเชอรี และการทำตลาดในประเทศไทย

นายจิม กล่าวว่า หากมีความต้องการ เชอรี สามารถขยายโรงงานได้อย่างรวดเร็ว ปัจจุบันด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และมีประสบการณ์ก่อสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ของค่ายเชอรี ทำให้การก่อสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ใช้เวลาไม่นานเหมือนในอดีต หากมีความต้องการรถยนต์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เชอรี พร้อมลงทุนขยายโรงงานได้ทันที ประกอบการผลิตรถยนต์เกือบทุกขั้นตอน ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ใช้ระบบอัตโนมัติ มาช่วยการผลิต มีการใช้แรงงานลดน้อยลง ทำให้เกิดความรวดเร็ว มีความแม่นยำในการผลิต

โดยแรงงานจากคนนั้น มีไว้สำหรับการตรวจเช็คคุณภาพมาตรฐานให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล โดยเฉพาะมาตรฐานความปลอดภัย ซึ่งเชอรี ให้ความสำคัญมาก เนื่องจากต้องการรักษาชื่อเสียงด้านนี้ เพราะรถยนต์ของเชอรี ส่งออกไปจำหน่ายทั่วโลก โดยเฉพาะในสหภาพยุโรป ที่ให้ความสำคัญเกี่ยวกับมาตรฐานความปลอดภัย ดังนั้นทำให้เชอรี เน้นย้ำเรื่องมาตรฐานความปลอดภัย เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก

นายจิม กล่าวต่อว่า จากที่รัฐบาลไทยมีนโยบายสนับสนุนการใช้รถยนต์ไฟฟ้าของประชาชนนั้น ถือเป็นเรื่องที่ดี ซึ่งเชอรี ก็พร้อมสนับสนุนนโยบายอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าของรัฐบาลไทย ซึ่งที่ผ่านมา เชอรี ได้ให้การสนับสนุนนโยบายรถยนต์อีวีของรัฐบาลไทยมาโดยตลอด และจะสนับสนุนตลอดไป เพราะเชอรี มองเห็นโอกาสจากที่ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ในภูมิภาคนี้อยู่แล้ว และการประกาศลงทุนในประเทศไทยนั้น ถือเป็นการสะท้อนความมุ่งมั่น และเป็นก้าวสำคัญในวิสัยทัศน์ระยะยาว เพื่อสร้างฐานการผลิตที่แข็งแกร่งในภูมิภาค ที่มีโอกาสให้ประเทศไทยเป็นฐานผลิตรถยนต์อีวีในอนาคต

สำหรับการเจาะตลาดผู้บริโภคไทยแล้ว เชอรี มองเห็นโอกาสเติบโตของตลาดรถยนต์อีวีในไทย เนื่องจากผู้บริโภคชาวไทยมีความตื่นตัว เรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ของรถยนต์อีวี ดังนั้นเชอรี จึงมีเป้าหมายว่าไม่ได้เป็นเพียงอีกหนึ่งทางเลือก แต่มุ่งมั่นที่จะสร้างบรรทัดฐานใหม่ให้กับตลาดรถยนต์ในประเทศไทย ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ รถยนต์มีสมรรถนะการขับขี่ มีความอัจฉริยะ รักษ์โลก ขณะเดียวกับดีไซน์ของรถ ก็เป็นอีกสิ่งที่เร้าใจผู้บริโภคชาวไทย เช่น เชอรี V23 และเจคู ถือว่าได้รับการตอบรับที่ดีมาก อีกทั้งยังมีการพัฒนาที่จะทำให้ได้เครื่องยนต์ที่ขับขี่สนุกเร้าใจ และขับขี่ได้ระยะทางที่ไกลขึ้น ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของลูกค้าคนไทย โดยเชอรี จะขอเป็นแบรนด์เคียงข้างการเดินทางของคนไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเปิดตลาดรถยนต์เชอรี ในประเทศไทย ถือเป็นการเขย่าราคารถยนต์อีวีในประเทศไทย เป็นอย่างมาก จากเดิมราคารถอีวี แตะระดับเกิน 1 ล้านบาทต่อคัน แต่ปัจจุบันได้เกิดสงครามราคารถยนต์อีวี ทำให้มีการแข่งขันการปรับลดราคาลงมาแตะระดับ 600,000-800,000 บาท ถือเป็นราคาที่จับต้องได้ และในเร็ว ๆ นี้ เชอรี จะเปิดตัวรถยนต์อีวี ขนาดเล็กเจาะตลาดในเมือง ราคาไม่เกิน 500,000 บาท คาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีอีกครั้ง และเชื่อว่าในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป ปลายปีนี้ ตลาดรถยนต์อีวี ในไทย จะแข่งขันกันดุเดือดอีกแน่นอน



Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ