
ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวราคาทองคำวันที่ 14 ต.ค.68 ว่า ราคาราคาทองคำในประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้น 1,250 บาท โดยการประกาศราคาของสมาคมผู้ค้าทอง พบว่าราคาทองคำแท่งสูงสุดของวัน เมื่อเวลา12.10น. รับซื้อที่บาทละ 64,250 บาท ขายออก 64,350 บาท เพิ่มขึ้นจากวันก่อน 1,600 บาท ด้านราคาทองรูปพรรณ รับซื้อบาทละ 62,959.48บาท และขายออกบาทละ 65,150 บาท ภายใต้ที่ราคาทองโลกตลาด Gold Spot ขึ้นไปที่ระดับสูงสุดเช่นกันที่ 4,177 ดอลลาร์/ออนซ์
นายธนรัชต์ พสวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มฮั่วเซ่งเฮง กล่าวว่าราคาทองโลกได้ปรับตัวขึ้น จากการที่ภาวะชัตดาวน์สหรัฐฯยังไม่มีสัญญาณบ่งชี้ว่าพรรคเดโมแครต-รีพับลิกันจะสามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับการผ่านร่างงบประมาณชั่วคราว ขณะที่นาย Michael Hartnett นักยุทธศาสตร์ของ Bank of America (BoFA) คาดการณ์ว่า ราคาทองคำจะแตะ 5,000 ดอลลาร์ ในปีหน้า เนื่องจากสัดส่วนการลงทุนในทองคำที่นักลงทุนหรือสถาบันต่างๆ ถือครองอยู่มีน้อยเกินไป เมื่อเทียบกับสินทรัพย์ประเภทอื่นในพอร์ตโฟลิโอ และประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)คนใหม่ที่เอื้อนโยบายการเงินผ่อนคลาย ที่อาจก่อให้เกิดฟองสบู่ อย่างไรก็ตาม ดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ได้ปรับตัวขึ้นอีกครั้ง สู่ระดับ 99.24 หน่วย จาก 98.94 หน่วย เนื่องจากเงินเยนและยูโรอ่อนค่า ทางด้านกองทุน SPDR ได้เข้าซื้อทองคำเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง รวมถือครองสุทธิ 1,018.88 ตัน
นอกจากนี้ยังมีความกังวลสงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯรอบใหม่ แม้รมว.คลังสหรัฐฯ เผยว่า มาตรการภาษี 100% ที่ โดนัลล์ ทรัมป์ ประกาศจะเรียกเก็บจากจีนในวันจันทร์นั้น อาจไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้น และเจ้าหน้าที่จีน-สหรัฐฯ จะมีการหารือกันที่กรุงวอชิงตันในสัปดาห์นี้ รวมถึงยังคงมีกำหนดการพบกับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง-ทรัมป์ ที่การประชุม APEC เกาหลีใต้วันที่ 31 ต.ค. -1 พ.ย. ด้านกองทุน SPDR ซื้อทองคำ 1.72 ตัน รวมสุทธิ 1,018.88 ตัน
“ทองโลกอยู่ในระยะขาขึ้นต่อเนื่อง โดยราคาได้ขึ้นไปทะลุเพดานแนวต้านที่ 4,160 และขึ้นไปแตะจุดสูงสุดที่ 4,177 ดอลลาร์ในช่วงกลางวันของวันที่14 ต.ค.ก่อนถูกขายทำกำไรปรับตัวลงมาในช่วงค่ำที่ 4,132 ดอลลาร์ ประเมินว่า ทองโลกอาจย่อตัวลงทดสอบแนวรับที่ 4,115 ดอลลาร์ ก่อนกลับตัวเป็นขาขึ้นต่อ แต่หากทองโลกหลุดแนวรับถัดไปที่ 4,100 ดอลลาร์ ทองโลกอาจเข้าสู่การปรับฐานลงระยะสั้น
สำหรับกลยุทธ์ลงทุนระยะสั้นยังไม่แนะนำซื้อ ให้ใช้กลยุทธ์ย่อเก็บสะสมจากแนวรับ 4,115 ดอลลาร์ และขายทำกำไรหากราคาขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 4,160 ดอลลาร์ แต่หากราคาหลุดแนวรับที่ 4,100 ดอลลาร์ แนะขายตัดขาดทุนไปก่อน ส่วนราคาทองในประเทศเป็นขาขึ้นตามทองโลก ขณะที่ค่าเงินบาทแข็งค่า จึงแนะนำทยอยซื้อสะสมตามแนวรับที่บาทละ 63,450 และขายทำกำไรตามแนวต้านที่ 64,050 บาท แต่หากราคาหลุดแนวรับที่ 63,250 บาท แนะนำขายตัดขาดทุน
ขณะที่มุมมองนักวิเคราะห์ต่างประเทศ Blue Line Futures กล่าวว่า ราคาทองคำกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น และมีแนวโน้มพุ่งแตะระดับ 5,000 ดอลลาร์ภายในสิ้นปี 69 เช่นเดียวกับนักวิเคราะห์จาก Bank of America และ Societe Generale ต่างก็คาดการณ์ว่า ราคาทองจะพุ่งแตะระดับ 5,000 ดอลลาร์ในปี 69 หากคิดเป็นราคาทองในประเทศจะอยู่ที่บาทละ72,000บาทเลยทีเดียว โดยได้ปัจจัยหนุนจากการเข้าซื้อของธนาคารกลาง เม็ดเงินที่ไหลเข้ากองทุน ETF ทองคำ รวมทั้งความตึงเครียดการค้าจีนและสหรัฐฯ และความเชื่อมั่นที่ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยนักลงทุนให้น้ำหนัก 97% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนต.ค. และให้น้ำหนัก 100% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ยอีกในเดือนธ.ค.