ผู้ว่าการใหม่คุมกนง.ครั้งแรกคงดอกเบี้ย หนุนเศรษฐกิจไทยฟื้นตัว

Economics

Thai Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

ผู้ว่าการใหม่คุมกนง.ครั้งแรกคงดอกเบี้ย หนุนเศรษฐกิจไทยฟื้นตัว

Date Time: 9 ต.ค. 2568 07:30 น.

Summary

ที่ประชุม กนง.ครั้งแรกรับผู้ว่าใหม่ ประเดิมคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% ปรับลดอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจลงเหลือ 2.2% ปีนี้ ยอมรับปีหน้าชะลอลง แต่ยืนกระต่ายขาเดียว ไม่ใช่เงินฝืด

Latest

ทำไมการปล่อยให้ไทยเป็น “ฐานฟอกเงินโลก” กระทบชีวิตและการเงินคนไทย

 นายสักกะภพ พันธ์ยานุกูล ผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในฐานะเลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) แถลงผลการประชุม กนง. ในวันที่ 8 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการประชุม กนง.นัดแรกของผู้ว่าการธปท.คนใหม่ นายวิทัย รัตนากร โดยกล่าวว่า  กนง.มีมติ 5 ต่อ 2 เสียงให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50 % ต่อปี  โดยมี 2 เสียงให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25 %


ทั้งนี้ กนง.ได้ปรับลดประมาณเศรษฐกิจไทยในปี 2568 และ ปี 2569 ลงเล็กน้อย โดยคาดว่าจะขยายตัว 2.2% จากการคาดการณ์ 2.3% ในครั้งก่อน  และคาดว่าจะขยายตัว 1.6 %ในปีหน้า จากที่เคยคาดไว้ 1.7% โดยเศรษฐกิจในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ขยายตัวดีตามที่ประเมินไว้ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการเร่งผลิตและส่งออกไปยังสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 และปี 2569 มีแนวโน้มชะลอลงจากผลกระทบของมาตรการภาษีสหรัฐฯ ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวจะทยอยฟื้นตัว อีกทั้งการบริโภคภาคเอกชนขยายตัวได้ในระดับหนึ่งโดยได้รับแรงส่งเพิ่มเติมจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ  

ขณะเดียวกัน กนง.เห็นควรให้ติดตามผลกระทบที่ชัดเจนของมาตรการภาษีสหรัฐฯ ความต่อเนื่องของการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ การกลับมาของนักท่องเที่ยว และการปรับตัวของธุรกิจเอสเอ็มอีที่ยังเผชิญปัญหาด้านการแข่งขัน การเข้าถึงสินเชื่อ ต้นทุนการเงิน ท่ามกลางสินเชื่อรวมยังหดตัวและคุณภาพสินเชื่อกลุ่มเปราะบางยังด้อยลง

“กนง.เห็นว่า นโยบายการเงินควรอยู่ในระดับผ่อนคลายเพื่อเอื้อต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งการลดอัตราดอกเบี้ยที่ผ่านมาอยู่ระหว่างการส่งผ่านไปยังภาคเศรษฐกิจ ทำให้กรรมการส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับจังหวะเวลาและประสิทธิผลของนโยบายการเงินภายใต้ขีดความสามารถของนโยบายการเงิน (policy space) ที่มีจำกัด เพื่อรองรับการขยายตัวที่ชะลอลงในปีหน้า”

 นายสักกะภพ กล่าวต่อว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2568 มีแนวโน้มลดลงมาอยู่ที่ 0% และปรับขึ้นมาเป็น 0.5% แต่คาดว่าจะทยอยกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายในช่วงต้นปี 2570 อย่างไรก็ตาม เงินเฟ้อที่ปรับลดลงเป็นผลจากราคาน้ำมันดิบโลกและมาตรการลดราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศ รวมถึงราคาอาหารสดที่ปรับลดลงโดยยืนยันว่า ความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะเงินฝืดยังอยู่ในระดับต่ำสะท้อนจากราคาสินค้าและบริการส่วนมากที่ยังปรับเพิ่มขึ้นหรือไม่เปลี่ยนแปลง แต่เข้าใจว่า ภาวะที่เกิดขึ้นในขณะนี้คือ คนไทยอยู่ในภาวะฝืดเคือง

 



Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ