ประเทศไทยกำลังจะจมน้ำ

Economics

Thai Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

ประเทศไทยกำลังจะจมน้ำ

Date Time: 7 ต.ค. 2568 03:40 น.

Summary

ในปี 2568 เป็นปีที่ประเทศไทยได้รับอิทธิพลจากปรากฏการณ์ “ลานีญา” ซึ่งทำให้ฝนตกมากกว่าที่คาดกันไว้ ทำให้หลายพื้นที่ต้องเผชิญกับน้ำท่วมเกิดความเสียหายต่อทรัพย์สิน และกิจกรรมทางเศรษฐกิจจำนวนมาก

Latest

ทำไมการปล่อยให้ไทยเป็น “ฐานฟอกเงินโลก” กระทบชีวิตและการเงินคนไทย

ในปี 2568 เป็นปีที่ประเทศไทยได้รับอิทธิพลจากปรากฏการณ์ “ลานีญา” ซึ่งทำให้ฝนตกมากกว่าที่คาดกันไว้ และเป็นอีกปีที่พี่น้องคนไทยในภาคเหนือ ภาคอีสาน กลาง ตะวันออก ภาคใต้บางพื้นที่ รวมทั้งกรุงเทพฯ ปริมณฑล ต้องเผชิญกับน้ำท่วมเกิดความเสียหายต่อทรัพย์สิน และกิจกรรมทางเศรษฐกิจจำนวนมาก

คอลัมน์วันนี้ “มิสเตอร์พี” จึงได้นำเอาบางแง่มุมมองที่มีต่อ “ปัญหาน้ำท่วม” ของไทยมากฝากกัน ทั้งนี้ บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้ออกรายงาน โดยระบุว่า “ช่วง 8 เดือนแรกปีนี้ปริมาณฝนตกสะสมทั่วประเทศสูงกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 30 ปี ถึง 10.3% และสถานการณ์ระดับน้ำล่าสุด (ณ 16 ก.ย.68) ของเขื่อนในภาคเหนือและภาคตะวันตกมีความเสี่ยงสูงต้องเฝ้าระวัง ซึ่งหากน้ำยังสูงต่อเนื่องอาจส่งผลกระทบถึงกรุงเทพฯ และเขตรอบข้าง”

ส่วนความเสียหายเบื้องต้นนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า “ปริมาณฝนในช่วง ก.ย.-ต.ค. เพิ่มขึ้น 5.9% จากระยะเดียวกันปีก่อนเฉลี่ยอยู่ที่ 264 มิลลิเมตรต่อเดือน ประกอบกับอาจเกิดพายุ 2-3 ลูก ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง ทำให้ประเมินว่า น้ำท่วมไทยปี 2568 สร้างความเสียหายต่อข้าวนาปี คิดเป็นมูลค่า 5,210 ล้านบาท โดยคาดว่า จะมีพื้นที่ข้าวนาปีได้รับผลกระทบราว 1.85 ล้านไร่ ผลผลิตเสียหาย 4.8 แสนตัน นอกจากนี้ ยังต้องจับตาน้ำท่วมช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค. ที่จะกระทบผลผลิตยางพาราและปาล์มน้ำมันในภาคใต้”

ยิ่งไปกว่านั้น ยังระบุด้วยอีก 25 ปีต่อจากนี้ หรือในปี 2593 ประเทศไทยมีความเสี่ยงที่ระดับน้ำทะเลจะสูงขึ้น 12.5 ซม. และปัญหาน้ำท่วมจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยราว 0.3% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ส่งผลให้ประชากรครึ่งหนึ่งของกรุงเทพฯ ประมาณ 5 ล้านคนจะได้รับผลกระทบ

ขณะที่ KAsset หรือบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย ได้หยิบยกข้อมูลของ Climate Central ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรในสหรัฐฯ ซึ่งทำการศึกษา โดยระบุว่า กรุงเทพฯอาจเป็นหนึ่งในเมืองที่มีความเสี่ยงเป็นพิเศษ โดยคาดการณ์ว่าพื้นที่ในและรอบกรุงเทพฯจะอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำท่วมประจำปีในปี 2593 และหากยังปล่อยก๊าซคาร์บอนในระดับที่สูงต่อไป สิ้นศตวรรษนี้พื้นที่ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของคนไทยกว่า 17% ก็อาจจมอยู่ใต้ระดับน้ำขึ้นสูงสุดอย่างถาวรก็เป็นได้

ทั้งนี้ หากรัฐบาลยังไม่มีมาตรการป้องกันที่มีประสิทธิภาพเพียงพอ ข้อมูลจากคณะกรรมการระหว่างประเทศว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ (IPCC) ชี้ว่า กรุงเทพฯ อาจจะจมน้ำได้ในปี 2643 จากการที่ระดับน้ำทะเลทั่วโลกสูงขึ้นประมาณ 1.1 เมตร

โดยแนวทางแก้ไขน้ำท่วมในระยะยาว ศูนย์วิจัยกสิกรไทยแนะให้ก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างสีเขียวเพื่อดูดซับน้ำ รวมทั้งจัดระบบเตือนภัย เช่น ระบบคำนวณและเตือนภัยล่วงหน้า 24 ชม. ซึ่งจะช่วยลดความเสียหายได้ถึง 30% เป็นต้น

เห็นจากข่าวว่า “รัฐบาลนายกฯ อนุทิน” กำลังให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือและบรรเทาความเสียหายเร่งด่วนของคนไทย ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี แต่หากรัฐบาลจะช่วยวางโครงสร้างเพื่อการแก้ไขระยะยาวไปพร้อมกันจะยิ่งดีกว่าเดิม.

มิสเตอร์พี

คลิกอ่านคอลัมน์ “กระจก 8 หน้า” เพิ่มเติม


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ