“ฝันอยากมีบ้าน ติดแค่กู้ไม่ผ่าน” ทรัพย์บังคับคดีถูกยึดเพิ่ม 200%  บ้านใหม่ต้องผ่อนกับโครงการ

Economics

Thai Economics

Tag

“ฝันอยากมีบ้าน ติดแค่กู้ไม่ผ่าน” ทรัพย์บังคับคดีถูกยึดเพิ่ม 200%  บ้านใหม่ต้องผ่อนกับโครงการ

Date Time: 3 ต.ค. 2568 10:59 น.

Video

กลาง ธ.ค.ลุ้น! ฝนถล่มภาคใต้รอบใหม่ น้ำลดรอบนี้ต้องรีบทำอะไร? | Thairath Money Night Stand EP.26

Summary

เศรษฐกิจเปราะบาง หนี้ครัวเรือนพุ่งสูงสุดในรอบ 4 ปี “บ้าน” กลับกลายเป็นภาระที่หลายครอบครัวแบกไม่ไหว บ้านมือสองถูกยึดเพิ่ม บ้านใหม่ต้องผ่อนกับโครงการ สัญญาณสะท้อนวิกฤติหนี้คนไทยที่น่าจับตา

Latest


“การมีบ้าน” เคยถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของความมั่นคง แต่สำหรับครอบครัวไทยจำนวนมาก ความฝันนี้ กลับเริ่มห่างออกไปเรื่อย ๆ 

ข้อมูลจากศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ม.หอการค้าไทย เพิ่งออกมาระบุว่า หนี้ครัวเรือนไทยเฉลี่ยต่อครัวเรือน ปัจจุบัน พุ่งขึ้นแตะ 740,000 บาท เพิ่มขึ้นกว่า 22% จากปีก่อน และเป็นระดับสูงที่สุดในรอบ 4 ปี นั่นหมายความว่า ครอบครัวไทยกำลังแบกภาระหนี้มากขึ้น ทั้งหนี้ในระบบและหนี้นอกระบบที่ทะลุ 35% ของหนี้ครัวเรือนทั้งหมด

ยิ่งไปกว่านั้น คนไทยกว่า 46.3% ไม่มีเงินออมฉุกเฉิน ขณะที่ธนาคารยังคุมเข้มการปล่อยกู้จนสินเชื่อในระบบหดตัวต่อเนื่อง 4 ไตรมาส และ NPL(หนี้เสีย) มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ปัญหานี้ไม่ได้สะท้อนแค่บนตัวเลขเศรษฐกิจ แต่เริ่มปรากฏชัดใน “ตลาดที่อยู่อาศัย” ซึ่งเป็นสินทรัพย์ใหญ่ที่สุดของครัวเรือนไทย

บ้านมือสอง ภาพเงาของหนี้ที่ “ผ่อนไม่ไหว”

ล่าสุด เมื่อเจาะรายงานตลาดบ้านมือสองของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ไตรมาส 2/2568 ก็ยิ่งแสดงให้เห็นความจริงที่เจ็บปวดที่ชัดเจนขึ้น

  • มีบ้านหมุนเวียนประกาศขายเพิ่มขึ้นกว่า +34.6% จากปีก่อน หรือ เกือบ 190,000 หน่วย
  • กรมบังคับคดี มีทรัพย์ประกาศขายเพิ่มขึ้นกว่า 210% สะท้อนจำนวนมหาศาลของครอบครัวที่ถูกยึดบ้านเพราะผ่อนไม่ไหว
  • แม้บ้านราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาทจะเป็นที่ต้องการมากที่สุด แต่การโอนกรรมสิทธิ์กลับ ลดลง -8.6% เพราะผู้ซื้อจำนวนมาก “กู้ไม่ผ่าน”

กล่าวอีกแบบคือ ฝั่ง “ผู้ขาย” บ้านมือสองล้นตลาดเพราะหนี้ครัวเรือนสูงจนบ้านถูกยึด แต่ฝั่ง “ผู้ซื้อ” แม้อยากมีบ้านก็ไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อได้ สถานการณ์นี้ทำให้ตลาดบ้านมือสองกลายเป็น กระจกสะท้อนภาระหนี้ครัวเรือนไทยที่หนักหน่วงที่สุด

“ อุปทานทรัพย์มือสองที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เป็นทรัพย์ของกรมบังคับคดี ซึ่งมีสาเหตุ มาจากภาวะหนี้สินของภาคครัวเรือนที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ทำให้ประชาชนบางส่วนไม่สามารถผ่อนชำระหนี้ได้ ตามกำหนด จนนำไปสู่การเข้าสู่กระบวนการบังคับคดี “ 

โครงการบ้านใหม่ ดิ้นด้วยกลยุทธ์การเงิน ผ่อนไม่ไหว เข้าอยู่ก่อนได้ 

ขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการบ้านใหม่ก็ไม่ได้อยู่ในภาวะสบายใจ เพราะเจออุปสรรคเดียวกัน  คนอยากซื้อแต่กู้ไม่ผ่าน โดยล่าสุด บริษัทใหญ่ในวงการ อย่าง “พฤกษา เรียลเอสเตท” มีการออกกลยุทธ์ “PRUKSA PASS ผ่านง่าย ๆ ย้ายเข้าเลย” เปิดทางให้ลูกค้าสามารถย้ายเข้าอยู่ได้ทันที แม้ยังไม่ได้สินเชื่อจากธนาคาร โดยให้ผ่อนกับโครงการตรง 12 เดือน 

โดยผู้บริหาร ระบุ ในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันการขออนุมัติสินเชื่อบ้านต้องใช้เวลา บริษัทเข้าใจปัญหาและข้อจำกัดที่ผู้บริโภคต้องเผชิญอยู่จริง เพื่อเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าที่ต้องการซื้อบ้านระดับราคา 1–25 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบ้านหลังแรกของคนวัยเริ่มต้นทำงาน รวมถึงกลุ่มคนทำงานอาชีพอิสระ ให้สามารถย้ายเข้าอยู่บ้านโครงการพฤกษาได้ทันที โดยไม่ต้องรอผลอนุมัติสินเชื่อ เพียงเริ่มต้นผ่อนชำระกับทางโครงการโดยตรง  ซึ่งยอดผ่อนชำระดังกล่าวสามารถนำไปใช้หักชำระเป็นค่าบ้าน เมื่อลูกค้าพร้อมโอนได้

นี่คือสัญญาณว่า ผู้ประกอบการ กำลังกลายเป็นคนทำหน้าที่ “สถาบันการเงินจำเป็น” เพื่อพยุงดีมานด์ของคนอยากมีบ้าน ไม่เช่นนั้นความฝันของกลุ่ม First Jobber, ฟรีแลนซ์ และแรงงานอิสระจะถูกตัดทิ้งไปทันทีเพราะ “เครดิตไม่ผ่านระบบธนาคาร”

เมื่อฝันอยากมีบ้าน สะท้อนปัญหาเชิงโครงสร้าง

สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งสองด้าน “บ้านมือสองที่ถูกยึดเพิ่ม และบ้านใหม่ที่ต้องปรับโมเดลทางการเงิน”  ล้วนสะท้อนปัญหาเดียวกันคือ

  • หนี้ครัวเรือนสูงเกินรับไหว: ครอบครัวจำนวนมากผ่อนบ้านไม่ไหว จนนำไปสู่การถูกบังคับคดี
  • ระบบสินเชื่อเข้มงวดเกินไป: แม้ยังมีคนอยากซื้อ แต่ไม่สามารถกู้ได้  ความต้องการซื้อจริงถูก “ล็อกเอาไว้”
  • ผู้ประกอบการต้องแบกภาระแทนสถาบันการเงิน: โมเดลอย่าง PRUKSA PASS คือตัวอย่างของการที่เอกชนต้องหาทางออกใหม่ เพราะระบบการเงินไม่ตอบโจทย์อาชีพสมัยใหม่และโครงสร้างรายได้ที่เปราะบาง

สัญญาณเตือนที่ต้องจับตา

  • NPL หรือ หนี้เสีย มีแนวโน้มเร่งตัว หากหนี้ครัวเรือนยังไม่ถูกแก้ไข
  • อุปทานบ้านมือสอง จากกรมบังคับคดีอาจเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หากครัวเรือนยังผ่อนหนี้ไม่ไหว
  • ผู้ประกอบการบ้านใหม่ จะต้องคิดค้นกลยุทธ์ทางการเงินเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนอาจเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจอสังหาฯ ไทยในอนาคต

ท้ายที่สุด  นี่ไม่ใช่เพียงเรื่องของอสังหาฯ แต่เป็น ภาพสะท้อนโครงสร้างเศรษฐกิจไทย ที่ยังบอบบาง และหากไม่แก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือน ความฝันเรียบง่ายของคนไทยอย่าง “การมีบ้านเป็นของตัวเอง” อาจกลายเป็นเรื่องที่ไกลเกินเอื้อมไปเรื่อย ๆ

ติดตามข้อมูลด้านเศรษฐกิจและนโยบายรัฐบาล กับ ThairathMoney ได้ที่ 

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้  https://www.facebook.com/ThairathMoney



Author

อุมาภรณ์ พิทักษ์

อุมาภรณ์ พิทักษ์
เศรษฐกิจ การเงิน ลงทุน และ อสังหาริมทรัพย์