
นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยถึงการค้าชายแดนและผ่านแดนของไทยว่า ในปีนี้ คาดว่า มูลค่าการค้าชายแดนและผ่านแดนของไทย ยังคงขยายตัวได้ตามเป้าหมายที่ 1.81-1.85 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 1-2% เมื่อเทียบกับปี 67 ที่มีมูลค่า 1.815 ล้านล้านบาทได้แน่นอน โดยเป็นการขยายตัวของการค้าผ่านแดนไทยไปประเทศที่ 3 เช่น เวียดนาม จีนตอนใต้ สิงคโปร์ และประเทศอื่นๆ ที่น่าจะได้มูลค่าใกล้เคียงกับปี 67 ที่ 834,000 ล้านบาท แต่การค้าชายแดนไทยกับเพื่อนบ้าน 4 ประเทศ คือ กัมพูชา เมียนมา ลาว และมาเลเซีย ลดลงมาก และมูลค่าอาจไม่ถึง 800,000 ล้านบาท จากปี 67 ที่ทำได้ถึงกว่า 977,000 ล้านบาท
สำหรับมูลค่าการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดนภาพรวม เดือน ส.ค.68 อยู่ที่ 150,131 ล้านบาท ลดลง 3.1% เทียบเดือนส.ค.67 เป็นการส่งออก 75,056 ล้านบาท ลด 14.7% และการนำเข้า 75,074 ล้านบาท เพิ่ม 12.2% ไทยขาดดุลการค้า 18 ล้านบาท และรวม 8 เดือน (ม.ค.-ส.ค.) ปี 68 มีมูลค่า 1.33 ล้านล้านบาท เพิ่ม 9.2% เทียบช่วงเดียวกันของปี 67 เป็นการส่งออก 763,533 ล้านบาท เพิ่ม 7.6% การนำเข้า 574,867 ล้านบาท เพิ่ม 11.4% ได้ดุลการค้า 188,666 ล้านบาท
ทั้งนี้ เดือนส.ค.68 เมื่อแยกเป็นเฉพาะมูลค่าการค้าชายแดน และการค้าผ่านแดน พบว่า ค้าชายแดน มีมูลค่า 63,938 ล้านบาท ลด 23.6% เป็นการส่งออก 33,951 ล้านบาท ลด 30.1% การนำเข้า 29,986 ล้านบาท ลด 14.5% แต่ไทยยังได้ดุลการค้า 3,965 ล้านบาท ซึ่งเป็นการลดลงของกัมพูชา เหลือมูลค่าส่งออก 7 ล้านบาท ลด 99.9% ตามด้วยเมียนมา 13,827 ล้านบาท ลด 20.8%, มาเลเซีย 26,969 ล้านบาท ลด 5.7% และลาว 23,131 ล้านบาท ลด 0.1% โดยมีสินค้าส่งออกชายแดนสำคัญ ได้แก่ น้ำมันดีเซล 2,051 ล้านบาท เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อื่น ๆ 1,350 ล้านบาท และน้ำมันสำเร็จรูปอื่นๆ 1,117 ล้านบาท ขณะที่ช่วง 8 เดือน ปี 68 มีมูลค่า 636,219 ล้านบาท ลด 3.6% เป็นส่งออก 377,902 ล้านบาท ลด 6.7% และนำเข้า 258,317 ล้านบาท เพิ่ม 1.2%
“การส่งออกชายแดนไปกัมพูชา ลดลง 2 เดือนติด เพราะมีการปิดด่าน โดยเดือน ก.ค. ลด 97.5% มาเดือน ส.ค. ลด 99.9% เหลือส่งออกแค่ 7 ล้านบาท เป็นการส่งออกไวน์ 5 ล้านบาท แร่และเชื้อเพลิง 1 ล้านบาท และวิสกี้ 1 ล้านบาท จนถึงสิ้นปี หากยังปิดด่าน การค้าจะชะงักต่อไป ส่วนด้านเมียนมา มีการกวาดล้างแก๊งคอลเซนเตอร์ช่วงต้นปี และปิดด่านบางแห่ง รวมถึงตั้งแต่วันที่ 15 ส.ค.68 เมียนมาได้ปิดด่านแม่สอด-เมียวดี ฝั่งเมียนมา เพราะเข้มงวดกับการนำเข้าสินค้าที่ต้องมีใบอนุญาตนำเข้า ส่งผลให้การค้าระหว่างกันลดลง”
ขณะที่การค้าผ่านแดนไปประเทศที่ 3 เดือน ส.ค.68 มีมูลค่า 86,193 ล้านบาท เพิ่ม 20.9% เป็นการส่งออก 41,105 ล้านบาท เพิ่ม 4.3% การนำเข้า 45,088 ล้านบาท เพิ่ม 41.5% โดยจีน สูงสุด 41,181 ล้านบาท เพิ่ม 12.9% ตามด้วย สิงคโปร์ และเวียดนาม มูลค่า 14,279 ล้านบาท เพิ่ม 56.0% และ 8,361 ล้านบาท เพิ่ม 27.8% ตามลำดับ สินค้าส่งออกผ่านแดนสำคัญ ได้แก่ ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ 7,135 ล้านบาท ทุเรียนสด 7,095 ล้านบาท และคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อื่นๆ 2,339 ล้านบาท ส่วนรวม 8 เดือน มีมูลค่า 702,181 ล้านบาท เพิ่ม 24.2% เป็นการส่งออก 385,631 ล้านบาท เพิ่ม 26.5% และการนำเข้า 316,550 ล้านบาท เพิ่ม 21.4%
อย่างไรก็ตาม กรมมีมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ส่งออกไปกัมพูชา ซึ่งเบื้องต้นสำรวจแล้วมีประมาณ 100 ราย เป็นกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม สินค้าอุปโภคบริโภค ชิ้นส่วนยานยนต์ เป็นต้น โดยกรมจะให้สิทธิ์ผู้ประกอบการเหล่านี้เป็นอันดับแรกในการเข้าร่วมงานมหกรรมการค้าชายแดน ปี 69 ที่จะจัด 6 ครั้ง และจัดกิจกรรมจับคู่เจรจาธุรกิจกับผู้ซื้อ ผู้นำเข้าชายแดนตลาดอื่น และดึงผู้ให้บริการขนส่งสินค้ามาช่วยขนส่งสินค้าราคาพิเศษให้ด้วย
ส่วนเป้าหมายการค้าชายแดนและผ่านแดน ปี 69 จะประเมินสถานการณ์อีกครั้ง แต่เบื้องต้นจะนำมูลค่าการค้ากับกัมพูชามารวมด้วย เพราะยังไม่ชัดเจนว่าจะมีการเปิดด่านหรือไม่ โดยปี 69 หากได้มูลค่า 1.81-1.85 ล้านล้านบาท ก็ถือว่าทำได้ดีแล้ว ส่วนปี 70 ที่ตั้งเป้าหมายมูลค่าเติบโตเป็น 2 ล้านล้านบาท อาจต้องปรับใหม่ และหาแนวทางอื่น เพื่อผลักดันให้ไปถึงเป้าให้ได้