จับตา "คลัง" ลุยกู้เงินฝ่าวิกฤต

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในปีงบประมาณ 2568 กระทรวงการคลัง ได้เผชิญความเสี่ยงในการจัดเก็บรายได้ และการปิดหีบงบประมาณให้ได้ตามเป้าหมาย ที่รัฐบาลได้กำหนดงบประมาณรายจ่ายที่ 3.75 ล้านล้านบาท และตั้งเป้าหมายการจัดเก็บรายได้ที่ 2.88 ล้านล้านบาท แต่ปรากฏว่า ประเทศไทยต้องเผชิญปัญหาหลาย ๆ ปัจจัยทั้งเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกชะลอตัว จึงกังวลว่าอาจทำให้ปิดหีบงบประมาณปี 2568 ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย

กระทรวงการคลัง ได้เตรียมหาแนวทางรองรับไว้แล้ว โดยแนวทางแรกที่ประเมินว่า แม้รายได้จะไม่เข้าเป้าหมาย แต่มองว่างบรายจ่ายจะน้อยกว่าเป้าหมาย โดยเฉพาะยอดการก่อหนี้ทั้งในส่วนงบประจำ และงบลงทุน ล่าสุดเดือน ส.ค. นี้ งบลงทุนได้ก่อหนี้ไปได้ 78% น้อยกว่าเป้า ณ สิ้นเดือน ส.ค. นี้ ที่ตั้งไว้ 92%

อีกกรณีหนึ่งคือ อาจต้องนำงบทั้ง 2 ส่วน มาหักลบกลบกัน หากกรณีหักลบกันแล้ว ทั้งยอดรายรับสุทธิ ยอดการก่อหนี้และการกู้ชดเชย ผลออกมาตัวเลขยังคงติดลบ ก็จะเร่งรัดให้หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ และส่วนราชการอื่น ๆ นำส่งรายได้เข้ารัฐบาลเพิ่มขึ้น ถัดมาคือการกู้เงิน ซึ่งกฎหมายเปิดช่องให้รัฐบาลกู้เพื่อชดเชยรายจ่ายสูงกว่ารายได้ ตามเพดานกู้ชดเชยขาดดุลที่เหลืออยู่ แต่ปีนี้เพดานเหลือเพียง 6,900 ล้านบาท และหากไม่เพียงพอต่อการปิดหีบงบประมาณ ก็ต้องมีการกู้เพื่อบริหารสภาพคล่องของเงินคงคลัง โดยมีเงื่อนไขคือ กู้ได้ไม่เกิน 3% ของงบประมาณรายจ่ายประจำปี ซึ่ง 3% ของงบปัจจุบัน 3.75 ล้านล้านบาท เท่ากับ 100,000 ล้านบาท ซึ่งวิธีนี้ประเทศไทยไม่เคยทำมาก่อน เพราะไม่เคยประสบปัญหาขาดดุลรุนแรง แต่ข้อเสียคืออาจทำให้ตัวเลขหนี้สาธารณะสูงขึ้นไปด้วย