สศช.เพิ่มเป้าจีดีพีปี 68 โต 2% รับสัญญาณชัดสหรัฐฯเก็บภาษีตอบโต้ไทย 19%

Economics

Thai Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

สศช.เพิ่มเป้าจีดีพีปี 68 โต 2% รับสัญญาณชัดสหรัฐฯเก็บภาษีตอบโต้ไทย 19%

Date Time: 19 ส.ค. 2568 07:30 น.

Summary

สศช.ปรับเป้าจีดีพี ปี 68 โต 2% จากเดิมที่คาด 1.8% หลังสหรัฐฯประกาศชัดเก็บภาษีตอบโต้ไทย 19% แต่ต้องระวังความไม่แน่นอนของมาตรการกีดกันการค้าของสหรัฐฯ และสินค้าเฝ้าระวังแอบอ้างถิ่นกำเนิดไทย 49 รายการ ส่วนจีดีพี ไตรมาส 2 โต 2.8% ดันครึ่งปีแรกขยายตัว 3%

Latest

ทำไมการปล่อยให้ไทยเป็น “ฐานฟอกเงินโลก” กระทบชีวิตและการเงินคนไทย

นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 2 ปี 68 ขยายตัว 2.8% เทียบช่วงเดียวกันปี 67 ชะลอลงจาก 3.2% ในไตรมาสแรก แต่หากปรับผลของฤดูกาล เหลือขยายตัว 0.6% จากไตรมาสก่อนหน้า ส่งผลให้ครึ่งแรกปีนี้ เศรษฐกิจเติบโตเฉลี่ย 3.0% อย่างไรก็ตาม สศช.ปรับเพิ่มประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 68 จากเดิม 1.3–2.3% ค่ากลาง 1.8% เป็นขยายตัว 1.8–2.3% ค่ากลาง 2% เพราะขณะนี้ชัดเจนมากขึ้นว่าเศรษฐกิจโลกปีนี้จะขยายตัว 3% การค้าโลกขยายตัว 2.7%

 “การปรับคาดการณ์ขยายตัวของเศรษฐกิจไทยจาก 1.8% เป็น 2% มาจากตอนนี้ชัดเจนมากขึ้นเรื่องที่สหรัฐเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal tariffs) กับสินค้านำเข้าทั่วไปจากไทย 19% ต่างจากแถลงครั้งก่อนเดือนพ.ค.ที่ยังมีความไม่แน่นอนของการค้าโลกและภาษีตอบโต้ที่ส่งผลต่อการส่งออก ขณะเดียวกัน ครึ่งปีแรกขยายตัวแล้ว 3% ในช่วงของครึ่งปีหลัง การขยายจะน้อยกว่าครึ่งปีแรก เพราะทั้งปีประเมินขยายตัว 2%” 

ทั้งนี้ การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยไตรมาส 2 ที่ 2.8% ได้แรงหนุนจากการส่งออกที่ยังขยายตัวถึง 15% ทำให้สศช.ปรับเพิ่มประมาณการทั้งปีจาก 1.8% เป็น 5.5% ขณะที่การลงทุนรวมขยายตัว 5.8% โดยการลงทุนเอกชนบวกครั้งแรกในรอบ 5 ไตรมาส ขยายตัว 4.1% ด้านการลงทุนภาครัฐ ขยายตัวต่อเนื่อง 10.1% ส่วนภาคเกษตรกรรมขยายตัว 6% แต่ราคาลดลง 11.7%, อุตสาหกรรมขยายตัว 1.7%, การขายส่ง ขายปลีก ขยายตัว 6.2% ขณะที่การบริโภคภาคเอกชน ชะลอลงเหลือ 2.1% และการก่อสร้างภาคเอกชน ติดลบต่อเนื่องไตรมาสที่ 5 โดยลดลง 2% 

สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 68 แม้ไทยถูกเก็บภาษีตอบโต้ 19% ทำให้ข้อกังวลคลายตัว แต่ไทยต้องปรับตัว โดยเฉพาะกฎระเบียบต่างๆ ด้านการส่งออกเพื่อให้แข่งขันได้ และต้องติดตามความเสี่ยงมาตรการกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ ที่อาจมีเพิ่มเติมอีก รวมทั้งสินค้าเสี่ยงเป็นทางผ่านระหว่างจีนและสหรัฐฯ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ประกาศสินค้าเฝ้าระวังแอบอ้างถิ่นกำเนิดไทยส่งออกไปสหรัฐฯ 49 รายการ มูลค่าส่งออก 80.6% ของมูลค่าส่งออกทั้งหมด เพื่อลดความเสี่ยงถูกเก็บภาษีในอัตราสินค้าส่งผ่าน (Transshipment Rate) 40% เหมือนเวียดนาม 

นายดนุชา กล่าวอีกว่า ช่วงที่เหลือของปีนี้ ควรลดผลกระทบจากการกีดกันของสหรัฐฯ และการตอบโต้ของประเทศสำคัญ โดย 1.ขยายตลาดใหม่เพื่อกระจายความเสี่ยงและลดพึ่งพาการส่งออกไปสหรัฐฯ 2.ยกระดับการตรวจสอบและเพิ่มความเข้มงวดในการบังคับใช้กฎระเบียบที่เกี่ยวกับถิ่นกำเนิด 3.ตรวจสอบและเฝ้าระวังการทะลักเข้าไทยของสินค้านำเข้า 4.ส่งเสริมให้ภาคธุรกิจบริหารความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน และลดต้นทุนการส่งออก 

“นอกจากนี้ ต้องฟื้นภาคท่องเที่ยว โดยสศช.ประมาณการว่า ปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทย 33 ล้านคน จากเดิมที่คาดไว้ 37 ล้านคน สร้างรายได้ 1.57 ล้านล้านบาท โดยนักท่องเที่ยวจีน จากที่คาดไว้กว่า 6 ล้านคน คงเหลือ 4 ล้านคน” 

ด้านนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง กล่าวว่า สินค้า Transshipment ไม่กังวลมาก เพราะไทยเข้มงวดสินค้าเฝ้าระวัง 49 รายการ ที่ต้องตรวจโรงงานก่อนออกใบรับรองถิ่นกำเนิดประกอบการส่งออกไปสหรัฐฯ หากสินค้าใดไม่ได้ผลิตในไทยและถูกส่งออก จะไม่ออกใบรับรองให้ และสหรัฐฯจะไม่อนุญาตนำเข้า หรืออาจต้องภาษี Transshipment


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ