
นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า วิกฤตชายแดนไทย–กัมพูชา กระทบการท่องเที่ยวชายแดน 7 จังหวัด ได้แก่ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ สระแก้ว จันทบุรี และตราด นักท่องเที่ยวจำนวนมากตัดสินใจเลื่อนหรือยกเลิกแผนการเดินทาง ส่งผลให้โรงแรมและที่พักชายแดนได้รับผลกระทบยกเลิกจองกว่า 5,000 ห้องสูญรายได้ราว 3,000 ล้านบาทต่อเดือน แหล่งท่องเที่ยวสำคัญต้องปิดบางส่วนเพื่อความปลอดภัย ยอดจองกรุ๊ปทัวร์ถูกยกเลิกถึง 100% โดยมีเพียงผู้บริจาคและสื่อมวลชนที่เข้าพักเพื่อปฏิบัติภารกิจ
ทั้งนี้ เหตุปะทะไทย-กัมพูชา ยังไม่กระทบท่องเที่ยวในภาพรวม แม้จะมีการออกคำเตือนของ 25 ประเทศ โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้สำรวจข้อมูลระหว่างวันที่ 21-27 ก.ค. 2568 เทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า พบว่านักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยเพิ่มขึ้น 1% มีจำนวน 618,000 คน เฉลี่ยวันละ 88,000 คน โดยเฉพาะช่วงที่เกิดเหตุปะทะจนักท่องเที่ยวต่างชาติไม่ลดลง และหลายตลาดยังไม่มีการยกเลิกอย่างมีนัยสำคัญ ยกเว้นกัมพูชาที่หดตัว 53%
“ระหว่างวันที่ 24-28 ก.ค. หลายประเทศออกคำแนะนำให้ระวังการเดินทาง โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มคำแนะนำทั่วไป 21 ประเทศ ให้รับรู้สถานการณ์และใช้ความระมัดระวัง โดยเฉพาะชายแดน 6 จังหวัด ได้แก่ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ สุรินทร์ อุบลราชธานี จันทบุรี และตราด ขณะที่มีกลุ่มยกระดับคำเตือน 4 ประเทศ ญี่ปุ่นและเนเธอร์แลนด์ ห้ามเดินทางไปพื้นที่ชายแดน ออสเตรเลียเพิ่มคำเตือนเรื่องกฎอัยการศึกและความเสี่ยงการก่อการร้ายในกรุงเทพฯ-ภูเก็ต สหรัฐฯห้ามเดินทางไปชายแดนไทย-กัมพูชา โดยยกระดับเป็น Level 2 “
ขณะที่ภาพลักษณ์ประเทศได้รับผลกระทบ จากการติดตาม Social Listening พบ มีการโพสต์เชิงลบเพิ่มจาก 6.8% เป็น 11.3% โพสต์เชิงบวกลดจาก 33.3% เหลือ 21.3% โดยเปลี่ยนจากการโปรโมทท่องเที่ยวเป็นการรายงานสถานการณ์ตึงเครียด