ถึงเศรษฐกิจซบเซา แต่ตลาด Luxury ยังโต เพราะ "กลุ่มรายได้สูง" ยังพร้อมเปย์แต่หนี้เสียน้อยกว่า

แม้ปีนี้เศรษฐกิจไทยเหมือนยืนอยู่ท่ามกลางพายุใหญ่ จากหลายเรื่องที่ถาโถมเข้ามา ไม่ว่าจะผลกระทบจากภาษีนำเข้าสหรัฐฯ ภาคการท่องเที่ยวที่หดตัว ไปจนถึงหนี้ครัวเรือนที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ส่งผลให้ GDP ไทยในปี 68 นี้คาดว่าลดเหลือ 1.6 - 2.3% แม้เศรษฐกิจไทยจะดูซึมเซาแต่ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับตลาด Luxury ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ตลาด Luxury เติบโตต่อเนื่อง 

เริ่มกันที่ ประณยา นิถานนท์ ผู้บริหารสูงสุด สายงานการตลาดบัตรเครดิต เคทีซี หรือ บมจ. บัตรกรุงไทย (KTC) เล่าถึงพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปว่า จากภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาทำให้หลายคนไม่กล้าควักเงินซื้อของมากเท่าในอดีต แต่ในกลุ่มตลาดแบรนด์หรูกลับพบว่าการใช้จ่ายยังมีแนวโน้มเติบโตขึ้นต่อเนื่องเพราะข้อมูลจาก Verified Market Research ระบุว่าการใช้จ่ายในกลุ่มสินค้าและบริการระดับ Luxury อาจเติบโตเฉลี่ย 9.8% ต่อปี ในช่วง 2568 - 2575

ข้อมูลนี้ยังสอดคล้องกับตลาด Luxury ของไทย สะท้อนจากพอร์ตของ KTC ที่ปัจจุบันมีลูกค้ากลุ่มรายได้ตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไป แม้มีสัดส่วน 20% ของพอร์ต แต่มียอดการใช้จ่ายสูงถึง 40% ของยอดใช้จ่ายทั้งหมด ขณะที่กลุ่มรายได้มากกว่า 100,000 บาทต่อเดือน ที่มีจำนวนอยู่ประมาณ 7-8% ของพอร์ต ยังมีสัดส่วนการใช้จ่ายถึง 20% ของยอดใช้จ่ายทั้งหมด

นอกจากลูกค้ากลุ่มรายได้ 50,000 - 100,000 บาทขึ้นไปจะมีกำลังซื้อและยอดการใช้จ่ายสูงแล้ว ยังเป็นกลุ่มที่มีหนี้เสียต่ำ (NPL) อยู่ที่ราว 1.1 - 1.2% (ข้อมูลล่าสุดในช่วงครึ่งปีแรก 2568) 

KTC - แบรนด์หรู บุกขยายฐาน Gen Z

ขอให้มีคุณค่าทางใจ ถึงแพงก็ซื้อ!

ตลาด Luxury มีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องจากฐานลูกค้าดั้งเดิมทั้งกลุ่มผู้มีรายได้สูง และมีกำลังซื้อสูง แต่การรุกคืบไปหาน่านน้ำใหม่ๆ ยังเป็นเรื่องสำคัญ ล่าสุดจึงเห็นแบรนด์ต่างๆ เร่งรุกเข้าสู่ตลาดกลุ่ม GEN Z หรือ กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่จะกลายเป็นกำลังซื้อสำคัญในอนาคต 

ประณยา นิถานนท์ เล่าถึงพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ แต่หนึ่งในกระแสที่หลายคนให้ความสนใจคือ Quiet Luxury หรือเทรนด์การเลือกสรรสินค้าที่หรูหราแต่เรียบง่าย ส่วนเหตุผลที่ Gen Z จะกลายเป็นกลุ่มกำลังซื้อหลักของตลาดแบรนด์หรูนั้น เป็นเพราะคนรุ่นนี้เปรียบเสมือนขุมทรัพย์ใหม่ เพราะเป็นกลุ่มอายุที่มีทั้งเศรษฐีใหม่ที่สร้างความมั่งคั่งและมีกำลังซื้อสูงจากการลงทุนกับสิ่งต่าง ๆ  เช่น สินทรัพย์ดิจิทัล ทำให้ยังคงใช้จ่ายได้ดีอย่างต่อเนื่องแม้ต้องเผชิญกับเศรษฐกิจที่ท้าทาย

ที่ผ่านมา KTC ปรับกลยุทธ์เพื่อขยายฐานลูกค้ากลุ่ม GEN Z อย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีฐานลูกค้ากลุ่ม Gen Z ราว 12% ของพอร์ต ซึ่งมียอดการใช้จ่ายผ่านบัตรอยู่ที่ประมาณ 8,000 บาท/คน/เดือน และเชื่อว่ากลุ่ม Gen Z จะช่วยหนุนให้ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรของ KTC เติบโต 10% ตามเป้าหมายที่วางไว้ในปี 68

ขณะที่ฝั่งแบรนด์ Luxury ยังเห็นการปรับตัวเพื่อขยายฐาน GEN Z อย่างต่อเนื่อง เช่น ธณพร  ตันติยานนท์  กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจศูนย์การค้า ONESIAM บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด เล่าว่า ธุรกิจ Luxury กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญ โดยผู้บริโภครุ่นใหม่มีพฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้าในกลุ่มนี้เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน ให้ความสำคัญทั้งคุณค่า คุณภาพของสินค้า และต้องสะท้อนตัวตนได้ดี จึงปรับกลยุทธ์มาสร้างนิยามใหม่ของ 'New Luxury' ที่ไม่ได้จำกัดอยู่แค่แบรนด์ใหญ่เท่านั้น และยังมุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์ใหม่ เช่น Exclusive Pop-up Stores, Events และคลับ JAI by ONESIAM เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับฐานลูกค้ากำลังซื้อสูงรุ่นใหม่ 

นันทมาลี ภิรมย์ภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท คาวาลลิโน มอเตอร์ จำกัด เล่าว่า ในกลุ่มคนรุ่นใหม่นิยมซื้อรถ Ferrari เพื่อเติมเต็มความฝันวัยเด็ก ซึ่งมีค่าทางใจมากพอให้ยอมทุ่มเงินหลักสิบล้านให้รถ 1 คัน หรือบางคนซื้อ Ferrari ตาม ลิซ่า - แบล็กพิงค์ เพื่อให้มีรถขับแบบเดียวกับศิลปินที่ตนชื่นชอบ ถือเป็นอีกฐานลูกค้าสำคัญของบริษัท

อัญรัตน์ พรประกฤต  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) เล่าถึงการรุกตลาด GEN Z ว่า ทางบริษัทออกคอลเล็กชั่นจิวเวลรี่ใหม่ร่วมกับ POP MART เพื่อให้เครื่องประดับหรูสามารถเข้าถึง Gen Z ได้มากขึ้น

เมื่อแบรนด์ต่าง ๆ หันมาเจาะกลุ่มเป้าหมาย GEN Z ผ่านการออกสินค้าและบริการที่น่าสนใจ แต่โจทย์ที่สำคัญกว่าคือ GEN Z จะเป็นอย่างไรหากเศรษฐกิจไทยยังมีแนวโน้มที่จะชะลอตัวต่อเนื่อง ซึ่งอาจกระทบต่อความสามารถในการใช้จ่ายของคนทุกกลุ่ม

ติดตามข้อมูลด้านเศรษฐกิจและนโยบายรัฐบาล กับ ThairathMoney ได้ที่ 

https://www.thairath.co.th/money/economics/thailand_econ

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้  https://www.facebook.com/ThairathMoney