จะเกิดอะไรขึ้น? หากความขัดแย้ง ไทย-กัมพูชา ยืดเยื้อ คนไทยต้องเตรียมรับมือทางเศรษฐกิจแค่ไหน!

Economics

Thai Economics

Tag

จะเกิดอะไรขึ้น? หากความขัดแย้ง ไทย-กัมพูชา ยืดเยื้อ คนไทยต้องเตรียมรับมือทางเศรษฐกิจแค่ไหน!

Date Time: 25 ก.ค. 2568 10:30 น.

Video

กลาง ธ.ค.ลุ้น! ฝนถล่มภาคใต้รอบใหม่ น้ำลดรอบนี้ต้องรีบทำอะไร? | Thairath Money Night Stand EP.26

Summary

จะเกิดอะไรขึ้น? หากความขัดแย้ง ชายแดน ไทย-กัมพูชา ยืดเยื้อ “เงินเฟ้อ–ค่าเงิน–การค้า” ทิศทางจะเป็นอย่างไร และ คนไทยต้องเตรียมรับมือทางเศรษฐกิจแค่ไหน!

Latest


แม้สถานการณ์ยังไม่ถึงขั้นสงครามเต็มรูปแบบ แต่ความขัดแย้งที่ชายแดน ไทย–กัมพูชา กำลังถูกจับตามอง โดยเฉพาะผลกระทบ “ต่อเศรษฐกิจ” จริงที่อาจเกิดขึ้นกับคนไทยทุกระดับ เพราะหากประเมินจากเส้นทางประวัติศาสตร์และข้อมูลปัจจุบัน บ่งชี้ว่า หากเหตุปะทะยืดเยื้อหรือทวีความรุนแรง สิ่งที่จะสะเทือนทันที คือ การค้าชายแดน การส่งออก 

เมื่อการค้าอาจสะดุด ค่าเงินบาทสั่นคลอน และราคาสินค้าในชีวิตประจำวันอาจเปลี่ยนไป กระทบต่อค่าครองชีพ ไม่นับรวมความเสี่ยง ที่ไทยเราอาจขาดแคลน “แรงงาน” หากชาวกัมพูชาถูกเรียกกลับประเทศ 

เจาะข้อมูล ปี 2567 ไทยส่งออกไปกัมพูชาราว 3.2 แสนล้านบาท ส่วนตั้งแต่ ม.ค. - พ.ค. 2568 มูลค่าส่งออกสูงราว 1.4 แสนล้านบาท จึงอาจตีเป็นตัวเลขผลกระทบ ได้ไม่ต่ำกว่า หมื่นล้านบาท/เดือน และมีทิศทางตัวเลขติดลบตั้งแต่ เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา 

ขณะที่ กว่า 90% ของการค้าทั้งหมดพึ่งพาด่านหลัก เช่น อรัญประเทศ คลองลึก จันทบุรี และตราด ซึ่งหากสถานการณ์ทำให้การปิดด้านชั่วคราว ถูกประเมินความความเสียหาย จากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ว่า อาจสูงถึง 500 ล้านบาท/วัน โดยเฉพาะสินค้ากลุ่ม

  • พลังงาน
  • พืชผลทางการเกษตร
  • วัตถุดิบก่อสร้าง
  • อาหารสดและแปรรูป

" ผู้ส่งออก และ นำเข้า SMEs ในพื้นที่ชายแดน จึงกลายเป็นกลุ่มแรกๆ ที่จะโดนผลกระทบ" 

การปิดด่านถาวรหลายจุด ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจบริเวณชายแดนหยุดชะงักทันที ผู้ประกอบการท้องถิ่น และแรงงานที่เคยพึ่งพาการเดินทางข้ามแดนเพื่อเลี้ยงชีพ กำลังเผชิญกับภาวะไร้รายได้โดยสิ้นเชิง และความขัดแย้งชายแดนไทย–กัมพูชา ยังส่งผลกระทบลึกถึงภาคอุตสาหกรรมบางกลุ่ม โดยเฉพาะธุรกิจที่ต้องพึ่งพาวัตถุดิบจากประเทศเพื่อนบ้าน เช่น กลุ่มเกษตรแปรรูป เมื่อการขนส่งหยุดชะงัก โรงงานในฝั่งไทยไม่สามารถผลิตต่อได้ ขณะที่เกษตรกรฝั่งกัมพูชาก็ไม่สามารถระบายผลผลิตได้เช่นกัน

นี่จึงไม่ใช่แค่ปัญหาด้าน “การค้า” แต่กำลังลุกลามเป็นแรงสั่นสะเทือนในห่วงโซ่อุปทานของทั้งภูมิภาค

ผลกระทบจากด่านเล็ก อาจส่งแรงสะเทือนถึงภาพใหญ่ของเศรษฐกิจชายแดน... แล้วจะเกิดอะไรขึ้น หากสถานการณ์ยืดเยื้อกว่านี้?

ตลาดค่าเงิน จับตาความขัดแย้งไทย-กัมพูชา 

ตลาดการเงินตอบสนองต่อ “ความไม่แน่นอน” ไวกว่าใคร หากสถานการณ์ชายแดนถูกประเมินว่ามีโอกาสยืดเยื้อ

“พูน พานิชพิบูลย์”  นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย ระบุว่า ตั้งแต่คืนที่ผ่านมา เงินบาทยังเคลื่อนไหวแบบไร้ทิศทางที่ชัดเจน เพราะนอกจากต้อง เกาะติด ตัวเลข เศรษฐกิจสหรัฐแล้ว ตลาดยังเกาะติดเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ด้วย โดยลุ้นให้รัฐบาลหาทางหยุดกรณีปะทะกันโดยเร็วที่สุด

วิเคราะห์ต่อเนื่อง ถ้า”เงินบาทอ่อน” อาจทำให้นักลงทุนต่างชาติอาจถอนเงินออกจากสินทรัพย์ไทยชั่วคราว ค่าเงินบาทอาจอ่อนตัวในระยะสั้น ยังกดดันราคานำเข้า เช่น น้ำมัน พลังงาน และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และแม้ไทยมีทุนสำรองระหว่างประเทศสูง แต่จิตวิทยาตลาดอาจทำให้เงินบาทอ่อนเร็วกว่าที่คาด

เงินเฟ้อเร่งตัว  เมื่อสินค้าบางอย่างเริ่ม “ขาด”

ข้อมูลจาก สำนักบริหารแรงงานต่างด้าว รายงาน ณ สิ้นเดือน พ.ค.2568  ประเทศไทยมีแรงงานจากกัมพูชา ทำงานในประเทศไทย รวมทั้งสิ้น  512,184 คน  ซึ่งหากถูกเรียกกลับประเทศหรือไม่สามารถข้ามแดนได้ภาคการผลิต–บริการ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมใหญ่ อย่างภาคการก่อสร้าง จะขาดแรงงานทันที ราคาวัตถุดิบที่เคยได้จากกัมพูชา เช่น ยาง ปาล์ม หรือปลาน้ำจืด หากชะงัก อาจทำให้ต้นทุนผู้ผลิตในไทยเพิ่ม เมื่อต้นทุนเพิ่ม  ราคาสินค้าก็ปรับตัวขึ้น อาจกลายเป็นแรงผลัก “เงินเฟ้อ” ที่อาจกระทบต่อครัวเรือนทั่วไป


สถานการณ์ “ยังไม่ถึงขั้นวิกฤต” แต่ต้องจับตาใกล้ชิด

แม้หากประเมินจากสถานการณ์ปัจจุบัน ความตึงเครียดชายแดนครั้งนี้ อาจยังไม่กระทบเศรษฐกิจวงกว้างทันทีแต่หากยืดเยื้อ 1–2 เดือนขึ้นไป หรือมีการปิดด่านติดต่อกันหลายวัน ผลกระทบต่อเศรษฐกิจจริงอาจเห็นได้ชัดเจน โดยเฉพาะท่าทีของฝ่ายต่างๆ เช่น 

    • ท่าทีของรัฐบาลไทย–กัมพูชาในการเปิดเจรจา
    • นโยบายควบคุมเงินเฟ้อของแบงก์ชาติ (กนง.)
    • ความมั่นใจของนักลงทุนต่างชาติในภูมิภาค

คนไทยควรรับมืออย่างไร?

ท้ายที่สุด สำหรับคนไทยทั่วไป แม้เราจะไม่ใช่ผู้กำหนดทิศทางความขัดแย้ง แต่เราอาจต้อง “เตรียมตัว” หากความไม่แน่นอนลุกลาม ไม่ว่าจะเป็น …

  • สำรองเงินฉุกเฉิน และเผื่อรายจ่ายจำเป็นในช่วงต้นทุนชีวิตสูงขึ้น
  • ชะลอการก่อหนี้ใหม่ หากอยู่ในพื้นที่เสี่ยง/อ่อนไหว
  • ผู้ประกอบการใกล้ชายแดนควรเร่งสำรวจความหลากหลายของแหล่งวัตถุดิบ–แรงงาน เพื่อ ลดการพึ่งพา Supply Chain ฝั่งเดียว

ทั้งหมดเป็นบทสรุปที่ว่า วันนี้ ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ที่เราเคยๆได้ยินกัน จากที่เคยมองว่าไกลตัว ตอนนี้ “ใกล้ตัว” เรามากกว่าที่คิด เพราะในโลกเศรษฐกิจ เชื่อมโยงกันหมด ไม่มีใครอยู่รอดโดยไม่รับผลกระทบ การรู้เท่าทัน เตรียมพร้อม และไม่ตื่นตระหนก คือสิ่งที่ดีที่สุดในวันที่สถานการณ์ยังไม่แน่นอน.


ติดตามข้อมูลด้านเศรษฐกิจและนโยบายรัฐบาล กับ ThairathMoney ได้ที่ 

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้  https://www.facebook.com/ThairathMoney


Author

อุมาภรณ์ พิทักษ์

อุมาภรณ์ พิทักษ์
เศรษฐกิจ การเงิน ลงทุน และ อสังหาริมทรัพย์