
ในช่วงกว่าทศวรรษที่ผ่านมา ไม่มีใครปฎิเสธได้ว่า “ตลาดคอนโดมิเนียมไทย” เคยอยู่ในยุครุ่งเรืองอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อกระแสการพัฒนารถไฟฟ้าขยายตัวออกสู่ทุกทิศทางของกรุงเทพฯ “คอนโดมิเนียม”แนวเส้นทางรถไฟฟ้าจึงกลายเป็นที่ต้องการ ของทั้งผู้ซื้ออยู่อาศัยจริงและนักลงทุน
เกิดปรากฎการณ์แห่จับจอง ต่อแถวกันข้ามคืนในทำเลดัง เพราะตอบโจทย์การใช้ชีวิตยุคใหม่ การอยู่ใกล้รถไฟฟ้า เดินทางสะดวก และราคาในช่วงเปิดขาย ยังจับต้องได้ แถมมีโอกาสปล่อยเช่าหรือขายต่อเก็งกำไร
ย้อนจุดพีกของตลาดคอนโดฯ เกิดขึ้นหลายระลอก เช่น
เรียกได้ว่าในยุคนั้น คอนโดฯ ไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัย แต่เป็น “สินทรัพย์” ที่ถูกมองว่าไม่มีวันตกเทรนด์ เกิดดีเวลลอปเปอร์หน้าใหม่ๆ เข้ามาในตลาดอย่างต่อเนื่อง แต่แล้ว เวลาเปลี่ยนไป และตัวเลขการเปิดตัวใหม่ในปีนี้ กำลังบอกอะไร ? กับตลาดอสังหาฯ ไทย
“ภัทรชัย ทวีวงศ์” ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัยและการสื่อสาร คอลลิเออร์ส ประเทศไทย บริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ เผยว่า ตลาดคอนโดฯกรุงเทพฯ เผชิญกับการชะลอตัวครั้งใหญ่
หลังสำรวจพบ ยูนิตเปิดขายใหม่ ณ สิ้นไตรมาสที่ 2/2568 ลดลงถึง 94.2% เหลือเพียง 373 ยูนิต จาก 2 โครงการเท่านั้น ซึ่งนับเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดในรอบมากกว่า 16 ปี นับตั้งแต่ปี 2552 ท่ามกลางปัจจัยลบที่รุมเร้าส่งผลให้ผู้ซื้อต้องชะลอการตัดสินใจ ผู้พัฒนาหลายรายเลือกที่จะชะลอแผนการเปิดตัวโครงการใหม่
“ ความน่ากังวล คือ การลดลงของจำนวนยูนิตดังกล่าว ยังต่ำกว่าช่วงที่เศรษฐกิจเกิด “หลุมดำ” ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ด้วยซ้ำ จากมูลค่าโครงการเปิดขายใหม่รายไตรมาส อยู่ในช่วง 10,000 – 30,000 ล้านบาท ปัจจุบัน เหลืออยู่แค่ 2,100 ล้านบาท เท่านั้น ”
2Q 2560 : 13,605 ยูนิต
2Q 2561 : 8,511 ยูนิต
2Q 2562 : 9,861 ยูนิต
2Q 2563 : 1,206 ยูนิต
2Q 2564 : 2,471 ยูนิต
2Q 2565 : 10,668 ยูนิต
2Q 2566 : 11,090 ยูนิต
Q2 2567 : 2,166 ยูนิต
Q2 2568 : 373 ยูนิต
กูรูอสังหาฯ กล่าวว่า เบื้องหลังการชะลอตัวอย่างรุนแรงของตลาดคอนโดฯ ความเงียบที่สะท้อนความเป็นอยู่ของบธุรกิจอสังหาฯ มาจากหลากหลายสาเหตุ และซับซ้อน ไม่ว่าจะเป็น ...
อย่างไรก็ดี กูรูอสังหาฯ คนเดิม ประเมินว่า มีโอกาสที่ช่วงครึ่งปีหลัง 2568 ตลาดจะเริ่มฟื้นตัว หากมีปัจจัยสนับสนุนจากภาครัฐ ส่วนทิศทางการพัฒนาของดีเวลลอปเปอร์ มีแนวโน้มเน้นที่ไปกลยุทธ์ด้านทำเลมากขึ้น และรูปแบบเฉพาะทางมากขึ้น เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่มีความพร้อม เช่น กลุ่มนักลงทุนต่างชาติ, กลุ่มคนทำงานระดับสูง หรือผู้ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยระยะยาว เป็นต้น
ท่ามกลาง “ผู้ซื้อ” ยังคงต้องวางแผนการเงินอย่างระมัดระวัง และควรพิจารณาเงินดาวน์ที่มากขึ้น เพื่อลดภาระดอกเบี้ยผ่อนในภาวะที่ดอกเบี้ยยังทรงตัวในระดับสูง
อย่างไรก็ดี กูรูอสังหาฯ คนเดิม ประเมินว่า มีโอกาสที่ช่วงครึ่งปีหลัง 2568 ตลาดจะเริ่มฟื้นตัว หากมีปัจจัยสนับสนุนจากภาครัฐ ส่วนทิศทางการพัฒนาของดีเวลลอปเปอร์ มีแนวโน้มเน้นที่ไปกลยุทธ์ด้านทำเลมากขึ้น และรูปแบบเฉพาะทางมากขึ้น เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่มีความพร้อม เช่น กลุ่มนักลงทุนต่างชาติ, กลุ่มคนทำงานระดับสูง หรือผู้ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยระยะยาว เป็นต้น
ท่ามกลาง “ผู้ซื้อ” ยังคงต้องวางแผนการเงินอย่างระมัดระวัง และควรพิจารณาเงินดาวน์ที่มากขึ้น เพื่อลดภาระดอกเบี้ยผ่อนในภาวะที่ดอกเบี้ยยังทรงตัวในระดับสูง
ติดตามข้อมูลด้านเศรษฐกิจและนโยบายรัฐบาล กับ ThairathMoney ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney